กกต.กทม.ประกาศ 5 รูปแบบการแบ่งเขต ให้พรรคการเมือง-ประชาชน แสดงความเห็นพรุ่งนี้ ชี้อยากให้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวางเพื่อประโยชน์คนทั้งประเทศ ก่อนส่งสรุปความเห็นให้ กกต.กลาง 16 ก.พ.
วันที่ 3 ก.พ.66 ที่ศูนย์ราชการฯ นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้ สำนักงาน กกต.กทม. ได้ประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นเวลา 10 วัน โดยจะเริ่มแสดงความคิดเห็นได้ในวันพรุ่งนี้ (4 ก.พ.) ซึ่งสำนักงาน กกต.กทม.ได้จัดทำประกาศ แผนที่รูปแบบการแบ่งเขต บรรจุไว้ใน QR CODE โดย กทม. จำทำรูปแบบการแบ่งเขตไว้ 5 รูปแบบ
นายสำราญ กล่าวว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นเพียงขั้นตอนการเริ่มต้น โดยให้ ผอ.กกต.จังหวัดและกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ดำเนินการจัดการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 3 รูปแบบ ต่อ 1 จังหวัด เพื่อประกาศ รับฟังความคิดเห็น พรรคการเมือง ประชาชน ในเขตนั้น ๆ ยังไม่ได้เคาะว่ารูปแบบไหนดีกว่าแบบไหน ซึ่ง กทม.แบ่งเขตไว้ 5 รูปแบบ ทุกรูปแบบเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้ทุกประการ โดยจะรับฟังความเห็นพรรคการเมือง คนกรุงเทพว่ารูปไหนที่เห็นว่ามีความเหมาะสมที่สุดกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น หลังจาก 10 วันแล้ว ก็จะรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดในแต่ละรูปแบบเสนอต่อ กกต.กลางให้วินิจฉัยรูปแบบเขตเลือกตั้งที่เห็นว่าเหมาะสมที่สุด ซึ่งวิธีการขั้นต้นในการแบ่งเขตแต่ละจังหวัดไปดำเนินการ โดยจะออกประกาศรูปแบบการแบ่งเขตวันนี้ มีผลวันพรุ่งนี้ และเริ่มแสดงความคิดเห็นได้ไปจนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์รวมระยะเวลา 10 วัน ตามที่กำหนด และภายในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ทุกจังหวัดก็จะพิจารณารูปแบบที่เห็นว่ามีความเหมาะสมเรียงตามลำดับ
นายสำราญ กล่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งในครั้งนี้ ในส่วนของ กทม.มีการเปลี่ยนแปลงจากการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งเดิมมี 30 เขต ส.ส. 30 คน ปัจจุปันเพิ่มมาเป็น 33 เขต ส.ส. 33 คน ซึ่งในการแบ่งเขตได้นำรูปแบบการแบ่งเดิมมาปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามเงื่อนไขในมาตรา 27 กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนเปิดรับฟังความคิดเห็น ขณะเดียวกันก็ย้อนไปดูการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 และ 2557 ที่มี 33 เขตเลือกตั้งเท่ากัน “เราแบ่งเราก็ดูหมดทั้งปี 2554 และ 2557 และปี 2562 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 29 โดยสิ่งที่ กกต.ต้องการคือรับฟังความคิดเห็นให้กว้างขวางที่สุด เพราะประโยชน์ของการเลือกตั้งไม่ได้เกิดกับเรา หรือใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เกิดประโยชน์กับคนทั้งประเทศ” นายสำราญกล่าว