ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
สภาพภัยแล้งเริ่มส่งผลในพื้นที่อำเภอเมือง ไทรโยค ศรีสวัสดิ์ และอำเภอทองผาภูมิ ทำให้เกิดไฟป่าลุกติดตามภูเขา จนท. บก.ทท. จัด จนท.ช่วยดับ เพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5
06 ก.พ. 2566

วันนี้ 5 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณพื้นที่ป่าชุมชนบ้านอู่ล่อง ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ทางกองบัญชาการกองทัพไทย บก.ทท. (นทพ.) โดย นพค.11 สนภ.1 นทพ. นำโดย พันเอก ชุมพร  ไผ่นาค ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาจัดชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว เร่งนำกำลังพร้อมรถบรรทุกน้ำฉีดสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ป่าตามเชิงเขา ป้องกันไม่ให้เปลวไฟลุกไหม้ลามออกไปยังจุดอื่นเป็นการเร่งด่วน โดยการออกสกัดเพลิง

ประกอบด้วยกำลังพล จำนวน 4 นาย และ รถยนต์บรรทุกน้ำ ขนาด 6,000 ลิตร จำนวน 1 คัน เข้าดำเนินการดับไฟป่าที่ไม่ทราบสาเหตุของต้นเพลิงตามแนวเชิงตีนเขา เพื่อเป็นการป้องกันไฟที่อาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน รวมทั้งช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ (PM 2.5) 

สำหรับบริเวณพื้นที่หมู่ 5 บ้านแก่งปลากด นายวสันต์  สุนจิรัตน์ กำนัน ตำบลช่องสะเดา  อำเภอเมือง ( ประธานทสม.ตำบลช่องสะเดา) พร้อมด้วยเครือข่ายการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันบ้านแก่งปลากด โดยการนำของ ร้อยโท สุรเดช วิเลิศ ผบ.มว.สื่อสาร ร.9 พัน1 และทหารจิตอาสาพระราชทาน

นายอุทัย ขันทอง หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนท่าทุ่งนา ประชาชนจิตอาสา และชาวบ้านหมู่ที่ 5 บ้านแก่งปลากด ร่วมกิจกรรมทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่า ในพื้นที่หมู่ที่5 บ้านแก่งปลากด

เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตติดต่อระหว่างหมู่ 5 บ้านแก่งปลากดและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ช่วงเข้าฤดูแล้ง ใบไม้ร่วงสะสมเป็นจำนวนมาก มักจะทำเกิดไฟป่าเป็นประจำทุกปี เป็นผลให้เกิดหมอกควัน ก๊าซที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก ทำให้เกิดความผันแปรของสภาวะภูมิอากาศ ซึ่งกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว
 
การทำแนวป้องกันไฟป่าจึงมีสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาความรุนแรงของไฟป่า ลดความสูญเสียของทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า รวมไปถึงการลดปัญหาฝุ่นละอองหมอกควัน PM 2.5  และช่วยรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ได้ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมป้องกันไฟป่าและปัญหาหมอกควันไม่ให้เกิดขึ้นอีก และสภาพอากาศในช่วงฤดูแล้ง ในพื้นที่เขตอำเภอเมือง ไทรโยค ศรีสวัสดิ์ และอำเภอทองผาภูมิ กำลังประสบปัญหาจากควันไฟ ฝุ่นละออง จากสภาพอากาศแห้งแล้ง ทำให้เกิดควันไฟ ฝุ่นละออง ให้เห็นอยู่เป็นจำนวนมาก ปัญหาดังกล่าวทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก กำลังเกิดปัญหาเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจ จึงขอฝากถึงประชาชนหากพบเห็นไฟที่ลุกไหม้ให้รีบแจ้งหน่วยงานเกี่ยวข้อง ผู้นำท้องถิ่นทราบเป็นการด่วน เพื่อหาทางดพับไฟไม่ให้เกิดลุกลามออกไปเป็นวงกว้างออกไป

ซึ่งเรื่องนี้ทาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้เฝ้าระวังให้คำแนะนำประชาชนเพื่อป้องกันปัญหาฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ โรคผิวหนังอักเสบ โรคตาอักเสบ หรือผู้ที่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานควรระมัดระวังป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ถ้าจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรสวมหน้ากากที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น หน้ากาก N 95 หรือหน้ากากที่มีแผ่นกรองคาร์บอน 

ซึ่ง นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ปัญหาฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมากเกินกว่าที่ขนจมูกของเราจะกรองได้ ซึ่งฝุ่นละอองระดับนี้ระบบป้องกันในร่างกายไม่สามารถดักจับได้ดีนัก ทำให้มีโอกาสเข้าสู่ร่างกายสูง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีได้มีการติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ โรคผิวหนังอักเสบ โรคตาอักเสบ หรือผู้ที่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน  รวมทั้งมีการสื่อสารเตือนภัยให้ประชาชนทราบความเสี่ยงและป้องกันดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง

นายแพทย์ชาติชาย กล่าวต่อไปว่า ค่าเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็กแบ่งเป็น 5 สี ตามระดับความเสี่ยงต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นไปตามค่าคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ มีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวของประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยง โดย คุณภาพอากาศระดับสีแดง (91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป) อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ระดับสีส้ม (51-90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ระดับสีเหลือง (38-50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ระดับสีเขียว (26-37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปกติ และระดับสีฟ้า (0-25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมาก ซึ่งวันนี้คุณภาพอากาศของจังหวัดกาญจนบุรีพบเป็นพื้นที่สีเหลืองสถานการณ์อยู่ในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวควรลดหรืองดการทำกิจกรรมและออกกำลังกายกลางแจ้ง สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเมื่อออกนอกบ้าน หรือใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจติดขัด แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ หรือหมดสติ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมทั้งขอความร่วมมือจากหน่วยงานและประชาชนลดแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองและควันไฟ ปัญหาการเผาไร่อ้อย การเผาขยะ ขอความร่วมมือในการงดการเผาทุกชนิด และงดการกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน ฝุ่นละออง เขม่า โดยหากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตาม พรบ.สาธารณสุข ให้มีการตรวจตรา ติดตาม และจับกุมผู้กระทำความผิดตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...