นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย นายปรัชญา สมะลาภา ประธานภาคฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการหอการค้าไทยคณะหอการค้าจังหวัดตราด รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดตราดเข้าร่วมหารือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดตราด
โดยสำนักงานคลังจังหวัดตราด ได้สรุปรายงานคาดว่า แนวโน้มในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.5 เนื่องจากเศรษฐกิจ ภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว จากการส่งเสริมการท่องเที่ยว และนโยบายกระตุ้นเศรฐกิจของรัฐบาล ผ่านการใช้จ่ายของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีปัจจัยบวกจากภาคเกษตรกรรม ทุเรียนมีเนื้อที่ ให้ผลเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 65 และกุ้งขาวได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐตามแผนฟื้นฟูผลผลิตกุ้ง ทะเลของไทย โดยปล่อยสินเชื่อให้แก่เกษตรกรนำมาลงทุนซื้ออาหาร พันธุ์กุ้ง และอื่น ๆ รายละ 500,000 บาท เพื่อสนองนโยบายในการเร่งฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลให้ได้ 400,000 ตัน ภายในปี พ.ศ. 2566 ประกอบกับความต้องการตลาดทั้งในและต่างประเทศยังมีแนวโน้มขยายตัวดี ทำให้ราคาและผลตอบแทน ทุเรียนและกุ้งขาวอยู่ในเกณฑ์ดี คุ้มค่ากับการลงทุน ส่วนการส่งออก มีสัญญานขยายตัวดีขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการส่งออกสินค้าเพื่อการบริโภค เช่น นมและอาหารเสริม น้ำตาลทราย ผงชูรส-ผงปรุงรส และน้ำมันพืช ในปี 2565 สะท้อนถึงกำลังซื้อของ ประเทศกัมพูชาฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้มีอุปสงค์ในการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน ประกอบกับการเปิดประเทศของจีน และผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคจีนฟื้นตัว และลดข้อจำกัดในการส่งออกไปยังประเทศจีน
อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้ หอการค้าจังหวัดตราด ได้มีประเด็นข้อเสนอ ใน 5 ข้อ คือ การพัฒนายกระดับท่าเรือ แหลมศอกเป็นศูนย์กลาง ท่องเที่ยวทางทะเล การผลักดันโครงการขยายเส้นทาง ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต จากจังหวัดจันทบุรีมายังจังหวัดตราด นโยบายการใช้หนังสือผ่าน แดนชั่วคราวสำหรับจังหวัด ชายแดนติดประเทศกัมพูชา การขับเคลื่อนนโยบายรักษาระดับเครดิตบูโรสำหรับผู้ประกอบการที่ขอพักชำระหนี้กรณีได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 และนโยบายการบังคับใช้ มาตรฐาน GAP สำหรับการส่งออกทุเรียนผ่านกลไกสหกรณ์ เพื่อแก้ปัญหาทุเรียน ล้นตลาดและสร้างความ ยั่งยืนในระยะยาว