พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชน ต่อกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า Suding Su Pattany ทำการโพสต์ภาพของ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวดังกล่าว โดยภายในภาพที่โพสต์นั้นมีการเขียนข้อความ ซึ่งมีใจความว่า “ประกาศตัดหัวให้ 1,000,000” ซึ่งเชื่อว่าได้ถูกโพสต์ไว้เมื่อกลางดึกของวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เป็นข่าวนั้น
แม่ทัพภาคที่ 4 ชี้แจงว่า สำหรับเรื่องที่มีการตั้งค่าหัวของตนเองนั้น ซึ่งจะมีการเขียนเล่นหรือจริงก็ไม่ทราบที่เขียนมาอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคิดอีกมุมหนึ่งก็คือคนโง่อยู่ที่ปาก คนฉลาดอยู่ที่ใจ เขียนมาหนึ่งล้านบาท แสดงว่ามีค่ามากสำหรับเขาก็แสดงให้เห็นว่าพวกขบวนการนี้ขาดการสนับสนุนแล้วทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือว่าแนวทางที่ตนเองได้ดำเนินการ มาถูกทาง ทั้งด้านยุทธศาสตร์ ยุทธการ และ ทางยุทธวิธี รวมถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ กลุ่มขบวนการถึงได้ออกมาว่าให้ค่าหัวหนึ่งล้านบาท
สำหรับการดำเนินนโยบายการแก้ปัญหานั้น ได้ใช้ยุทธศาตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ในขั้นพัฒนาโดยนำไปสู่ความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน ตาม นโยบายรัฐบาล จึงเห็นได้ว่าขณะนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการแก่ปัญหา อีกทั้งมวลชนผู้เห็นต่างก็กลับมาหมเมาร่วมโครงการพาคนกลับบ้านเพื่อเข้าร่วมพัฒนาพื้นที่ ส่วนผู้ที่ยังคงสร้างสถานการณ์แบะความรันแรงอยู่เขายังหลบหลบซอนซอนอยู่ มีปมด้อยแอบอยู่บนเขา แอบอยู่ตามที่ต่างๆ ไม่มีงานทำ ไม่รู้เรื่องการศึกษา ไม่มีอาชีพก็เลยไม่รู้จะทำอะไรเลยใช้ความรุนแรงและเห็นว่าเงินหนึ่งล้านบาทมีค่า มากและนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้รู้ว่าขบวนการของเขานั้นขาดการสนับสนุนขาดงบประมาณแม้กระทั่งการสนับสนุนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่าง ก็ไม่มีใครสนับสนุนแล้วภัยแทรกซ้อนก็หมดอันนี้ค่าตัวตั้ง 1,000,000 บาทมันน้อยไปนะแค่ค่านกกรงหัวจุกหรือค่านกกระเขา สูงถึง 2,000,000 มากกว่าค่าตัวผมอีกเพราะฉะนั้นอย่ามาทำอะไรผมเลยไปขโมยนกหัวจุกหรือนกหัวขานยังดีกว่าง่ายกว่า ตนเองไม่ได้ใส่ใจเรื่องดังกล่าว ของเค้าหมดหนทางสู้แล้วทั้งด้านมวลชนทางเลือกต่างๆ แนวร่วมได้ในการลงมาช่วย ทำให้เกิดความมั่นคงมั่งคั่งและยังยืนเค้าเห็นแล้วว่าเขาสามารถหาเงิน 1,000,000 ให้ตัวเองมีกินมีใช้ได้ส่วนเรื่องการแบ่งแยกดินแดน ผมพูดได้เลยว่ามันเป็นไปไม่ได้คุณจะมาแบ่งแยกดินแดนซักตารางเมตรเดียวหรือตารางนิ้วเดียวก็ไม่ได้ แผ่นดินไทยไม่ได้เป็นของคุณเพียงคนเดียวแต่เป็นของคนไทยทุกคนแต่ถ้าหากคุณมาทำมาหากินตามที่ให้มาก็สามารถทำได้เลย
ที่ผ่านมารัฐบาล อบะกน่วยงานด้านความมั่นคง ได้ดำเนินงานแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีโครงการพระราชดำริ มี่คอยรองรับ การสร้างงาน สร้างอาขีพแก่คนในพื้นที่ ซึ่งเป็นโครงการของพระองค์ท่านที่มีวัตถุประสงค์โดยตรงไปที่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้และมีงานทำเพราะฉะนั้นโครงการพระราชดำรินี้จึงเป็นที่รองรับของชาวบ้านอยู่แล้วจึงทำให้กระบวนการมีความระส่ำละสาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราได้เดินทางมาถูกทางแล้วเค้าจึงพยายามดิ้นรนที่จะสร้างความปั่นป่วน ผมจึงถือเป็นเรื่องปกติโดยทางด้านเจ้าหน้าที่รัฐก็ยังมีการดำเนินการเหมือนเดิมคือให้ความปลอดภัยแก่ประชาชนเป็นหลักโดยใช้กฎหมายนำการทหารตามการเมืองขยายซึ่งทั้งหมดนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้เกิดความมั่นคงต่อไป