นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการพิจารณาลงมติร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ของที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันนี้ ว่า ที่ประชุม สนช. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาร่างตามที่ กกต. เห็นแย้ง เพราะเป็นการลงมติทั้งฉบับ ซึ่งในส่วนของ กกต. จะมีความชัดเจนในวันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม นี้ ว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยว่าร่างกฎหมายดังกล่าว ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และจะใช้ช่องทางใดในการยื่นต่อศาล โดยขณะนี้กำลังประสานเพื่อจะให้ กกต. ได้ร่วมประชุมกับคณะที่ปรึกษากฎหมายก่อน และในวันที่ 18 กรกฎาคม ก็จะมีประชุมเพื่อมีมติอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ช่วงดังกล่าวยังอยู่ในระยะเวลา 5 วันที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่า นับแต่นายกรัฐมนตรีได้รับร่างกฎหมายจาก สนช. แล้วให้รอไว้ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อดูว่าจะมีสมาชิก สนช. 1 ใน 10 เข้ายื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยกฎหมายของร่างกฎหมายหรือไม่ หากไม่มีก็ให้ดำเนินการเรื่องการนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป
นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่ สนช. และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ได้วางแนวทางในการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยให้ กกต. มีหน้าที่แค่กวดขันพรรคการเมืองในการทำไพรมารีโหวต และไม่สามารถแจกใบเหลืองใบแดงกับพรรคหรือผู้สมัครที่ไม่ผ่านระบบไพรมารีโหวตได้นั้นว่า กกต. ไม่ใช่ผู้ร่างกฎหมาย เป็นแค่ผู้ปฏิบัติ การแก้ไขร่างกฎหมายหากทำให้การปฏิบัติเป็นไปได้ง่ายและสะดวกก็ยินดี แต่อยากฝากถึงผู้ร่างกฎหมายขอให้พิจารณาให้รอบคอบว่าในการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ต้องมีบทบัญญัติเพื่อให้เกิดการบังคับใช้ได้ ไม่ใช่ร่างขึ้นมาแล้ว ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ ทำจริงก็ได้ ทำปลอมก็ได้ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ควรมีหลักเกณฑ์ใหม่ เสียดีกว่า ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดผลประโยชน์อย่างที่ผู้ร่างกฎหมายต้องการ
อย่างไรก็ตามที่มีกระแสข่าวปัญหาดังกล่าวอาจนำมาสู่การคว่ำร่างกฎหมายพรรคการเมืองและนำไปการยื้อการเลือกตั้งออกไปนั้น นายสมชัย กล่าวว่า แม้จะมีการคว่ำร่างฯ ก็ไม่น่าจะกระทบต่อแผนการเลือกตั้งตามโรดแมปของรัฐบาล เนื่องจากยังเป็นช่วงแรกของการร่างกฎหมายลูกเท่านั้น สามารถยกร่างขึ้นใหม่ได้ทันเวลา