กาญจนบุรี - รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี  ร่วมเป็นสักขีพยานบันทึกข้อตกลงบ้านสาละวะและบ้านไล่โว่ กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่องการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่โครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562

วันนี้ 14 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านไล่โว่-สาละวะ หมู่ที่ 4 ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี  รองประธานมูลนิธิภูบดินทร์  นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบบันทึกข้อตกลง ระหว่างชาวบ้านไล่โว่-สาละวะ กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง การอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่โครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันตก ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 

ทั้งนี้ที่ผ่านมาคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำโดย นายอนันต์ ปิ่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานอำเภอสังขละบุรี หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ชุดประสานงานโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ภายใต้มูลนิธิภูบดินทร์ ได้ร่วมกันประชุมชี้แจงกับราษฎรบ้านไล่โว่-สาละวะ หมู่ที่ 4 ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี  เพื่อให้รับทราบการดำเนินการพิจารณาการอยู่อาศัยและทำกินภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ที่คณะทำงานสำรวจการครอบครองที่ดิน ระดับพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ได้ดำเนินการสำรวจการถือครองที่ดินเสร็จแล้ว ผลการประชุมที่ประชุมได้ทำความเข้าใจและตกลงร่วมกันกับผู้นำชุมชน รวมทั้งราษฎรในพื้นที่ บ้านไล่โว่-สาละวะ หมู่ที่4 ตำบลไล่โว่  อำเภอสังขละบุรี  จังหวัดกาญจนบุรี ดังนี้

1. แปลงที่ดินของราษฎรที่คณะทำงานสำรวจการครอบครองที่ดิน ระดับพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ได้ดำเนินการสำรวจการถือครองที่ดิน  และได้ทำการรังวัดฝังหลักเขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์แล้ว ราษฎรสามารถเข้าดำรงชีวิตได้ตามวิถีชีวิตได้ปกติ  โดยไม่มีการบุกรุกพื้นที่นอกเหนือจากที่ได้มีการสำรวจฯ และจะช่วยฟื้นฟูสภาพป่าในพื้นที่ให้คงอยู่
2. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาด้านสาธารรูปโภคของหมู่บ้าน และพัฒนาส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในพื้นที่ทำกินของราษฎรตามข้อ 1ในพื้นที่ส่วนแรกรายละไม่เกิน 20 ไร่  ตามโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งขาติ จังหวัดกาญจนบุรี ภายใต้มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เป็นไปตามกฎหมายและแนวทางที่กำหนดรายละเอียดปรากฏตามรายชื่อและแผนผังแปลงที่ดินของราษฎรแนบท้ายบันทึกฉบับนี้
3. ราษฎรในพื้นที่และผู้นำชุมชน จะร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการฟื้นฟูสภาพป่าให้มีความสมบูรณ์ตลอดไป 

โดยในโอกาสที่ลงพื้นที่วันนี้ นายอรรถพล เจริญชันษา ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์  คณะทำงานฯ ผู้นำชุมชน และตัวแทนชาวบ้าน ได้พา พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รองประธานมูลนิธิภูบดินทร์ ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน และลงพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกินที่ได้จัดทำตามโครงการจัดพื้นที่อยู่อาศัยและและทำกินในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ตามมาตรา 121 แห่งพรราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ในครั้งนี้ ซึ่งพบว่าชาวบ้านไล่โว่-สาละวะ มีความดีใจที่เกิดโครงการนี้ฯ เนื่องจากทำให้มีความมั่นใจในการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ ซึ่งต่างจากห้วงเวลาที่ผ่านมา 

ทั้งนี้บ้านไล่โว่-สาละวะ มีราษฎร อยู่อาศัยในพื้นที่ทั้งหมด 120 ครอบครัว ได้รับพื้นที่อยู่อาศัยและทำกินจากโครงการฯครอบครัวละ 20 ไร่ รวมที่ดินที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  มอบให้ราษฎรบ้านไล่โว่-สาละวะ ตามโครงการฯ จำนวน 2,400 ไร่ (ยังไม่รวมพื้นที่ส่วนกลาง-สาธารณประโยชน์อาทิ วัด โรงเรียน สุขศาลา ป่าช้า)และพื้นที่จิตวิญญาณ ที่ราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกัน)
ทั้งนี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะได้นำตัวอย่างบ้านไล่โว่-สาละวะ เป็นต้นแบบในการจัดการเรื่องคนอยู่กับป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์อื่นๆในประเทศไทย ที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 155 อุทยานแห่งชาติและอีกกว่า 100 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ รวมทั้งเขตห้ามล่าฯ.

ข่าวภูมภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารนทร์ – รายงาน