เวลา 10.00 น.วันที่ 15 มี.ค.66 นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจฝ่ายปกครอง กว่า 200 นาย เข้าดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ สวนปาล์มน้ำมันที่หมดสัญญาสัมปทาน ของบริษัทเอกชน มากว่า 10 ปี ในพื้นที่ หมู่ 4.5,7, และหมู่ ที่ 8 ต.ปลายพระยา รวม พื้นที่ 5 พันไร่ ตามโครงการโค่นล้มต้นปาล์มน้ำมันในพื้นที่หมดอายุสัมปทาน ของกรมป่าไม้ เพื่อปลูกป่าไม้ทดแทน และสร้างป่าชุมชน
โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด ชุดที่ 1,2,3, เป็นชุดตรวจสกัด เพื่อป้องกันกลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านการล้มต้นปาล์ม บุกเข้ามาก่อความวุ่นวายในพื้นที่ และชุดที่ 4 เป็นชุดคุ้มกันรถแบคโฮ ที่ทำการล้มต้นปาล์ม โดยภายหลังที่เจ้าหน้าที่ได้มีการรวมแถวที่บริเวณ หน้าที่ว่าการอำเภอปลายพระยา เพื่อทำการปล่อยแถวออกปฎิบัติการ ได้มีกลุ่มชาวบ้าน ประมาณ 10 คน นำโดยนายสมคิด สมทรง ตัวแทนชาวบ้าน มาขอยื่นหนังสือคัดค้านการล้มต้นปาล์ม แต่ถูกปฎิเสธ
นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เปิดเผยว่า พื้นที่ที่จะทำการโค่นล้มต้นปาล์มน้ำมันเป็นพื้นที่ที่หมดสัญญาสัมปทาน จึงต้องนำพื้นที่กลับคืนมาเป็นของรัฐและในวันนี้ทางรัฐบาลมีโครงการจะฟื้นฟูสภาพป่า จึงจำเป็นต้องรื้อถอนต้นปาล์มออก และก็จะมีการปลูกป่าทดแทน เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณนี้ จำนวน 5 พันไร่ และก็จะดำเนินการต่อเนื่องต่อไป
ขณะที่นายสมคิด สมทรง ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่ทางป่าไม้ โค่นล้มต้นปาล์มเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำมาหากินอยู่ด้วย ทั้งเลี้ยงสัตว์ หาของป่า เชื่อว่าหลังจากที่ป่าไม้โค่นล้มต้นปาล์ม ก็จะส่งผลกระทบกับชาวบ้านอย่างแน่นอนโดยเฉพาะการเลี้ยงสัตว์ วัวกว่า 1,000 ตัวของชาวบ้านก็จะไม่มีที่หากิน และว่าการล้มต้นปาล์ม ก็เหมือนกับการทำลายป่า อยากขอให้กรมป่าไม้ ชะลอการล้มต้นปาล์มไปก่อน และหาทางออกที่ดีกว่านี้
กระบี่