พลเอก อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี /หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการขับเคลื่อนของกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในหลายประเด็น โดยระบุว่าในขณะที่ทุกฝ่ายเรียกร้องหา “สันติภาพ” และปฏิเสธไม่ได้ว่า “การพูดคุยฯ” เป็นก้าวแรกของกระบวนการสันติภาพ แต่ยังมีบางท่านไม่เชื่อมั่นการพูดคุยฯ สังเกตได้จากกระแสสื่อสังคมที่มักเชื่อมโยงเหตุการณ์และกล่าวอ้างว่าการพูดคุยฯ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การประกาศเอกราชในปี 2574 ของขบวนการ BRN ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เพระโดยขอเท็จจริงแล้ว การพูดคุยฯ เป็นแนวทางสันติวิธี ย่อมไม่ใช่ต้นเหตุความรุนแรงอย่างแน่นอน แต่ในทางกลับกันการพูดคุยฯ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล จะช่วยนำไปสู่การออกจากความขัดแย้งอย่างยั่งยืนและเป็นความหวังของประชาชน ในการนำความสงบสุขไปสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
พล.อ.อักษรา เกิดผล ยังชี้ว่าเราได้ใช้เวลากว่า 3 ปีแล้ว จนสามารถตกลงกับกลุ่ม ผู้เห็นต่างๆ ในหลักการพื้นที่ปลอดภัยได้สำเร็จและกำลังอยู่ระหว่างการสร้างกลไกความร่วมมือ เพื่อนำหลักการไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทุกฝ่าย โดยเฉพาะส่วนราชการ
และประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างโมเดลพื้นที่ปลอดภัยที่ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง มิใช่โมเดลที่สร้างจากภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว
คณะพูดคุยฯ ได้มอบหมายให้ผู้แทนส่วนราชการในพื้นที่ที่ร่วมเป็นคณะพูดคุยฯ ทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งสร้างความเข้าใจกับภาคประชาสังคม ทั้ง 521 เครือข่าย ที่ยังมีแนวความคิดและจุดยืนของตนเอง แต่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ต้องการความสงบสุขปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ ทุกศาสนา มาช่วยสนับสนุนกระบวนการพูดคุยฯ และร่วมกันกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เป็นความเร่งด่วนแรก ก่อนการพัฒนาด้านอื่นๆ ที่มักมาในรูปแบบเดิมๆ ที่ได้ยินมาจนคุ้นเคย แต่ไม่มีคำว่าพื้นที่ปลอดภัยหรือพื้นที่ปลอดภัยสาธารณะเลย
จากการที่สื่อมวลชนมักให้ความสำคัญต่อการพูดคุยฯ โดยสนใจเพียงว่า จะเดินทางไปคุยกันอีกเมื่อใด คุยกับใคร เรื่องอะไร และผลเป็นอย่างไรนั้น พล.อ.อักษรา ได้ย้ำเพื่อความเข้าใจอีกครั้งว่าคณะพูดคุยฯ ได้คุยกันตลอดทั้งเป็นบุคคล และในรูปแบบคณะทำงานเทคนิคร่วม รวมทั้งพูดคุยกันแบบเต็มคณะ โดยก่อนหน้าเดือนรอมฎอน (มิถุนายน 2560 ) ได้คุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างฯ และผู้อำนวยความสะดวก เพื่อควบคุมสถานการณในห้วงเดือนรอมฎอน และในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปลายเดือนมิถุนายน 2560 จัดประชุมคณะพูดคุยฯ เพื่อประเมินสถานการณ์ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน พร้อมกับแจกหนังสือเพื่อสร้างความเข้าใจกับสังคมต่อไป
หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรี มีเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ และมีนโยบายชัดเจนในเรื่องการพูดคุยเพื่อสันติสุขโดยแสดงความจริงใจต่อกลุ่มผู้เห็นต่างฯ ทุกพวก/ทุกฝ่าย ที่ใช้แนวทางสันติวิธีหาทางออกจากความขัดแย้งร่วมกัน ภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับผู้เห็นต่างฯ ทุกกลุ่ม ไม่ว่ากลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ ที่ให้ความร่วมมือสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับกลุ่มที่ยังมีแนวคิดสุดโต่งใช้ความรุนแรงกดดันรัฐบาลนั้น จำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางทหารดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสำคัญ