นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวชี้แจงโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของประเทศที่ดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2552 และสิ้นสุดโครงการเมื่อปี 2556 ว่า ไม่ใช่โครงการที่ดำเนินการในรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2552 เห็นชอบในหลักการโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ ส่วนวงเงินงบประมาณให้ประสานสำนักงบประมาณกรณีไม่สามารถสนับสนุนงบประมาณจากกลางได้ให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ต่อมาคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 มีมติเห็นชอบในหลักการและเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2552 ได้มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อม 2,256 ล้านบาท ดำเนินโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีระยะเวลาดำเนินงาน 730 วัน ตั้งแต่ 1 กันยายน 2552 ถึง 30 กันยายน 2554 แล้วขยายเวลาสิ้นสุดการเบิกจ่ายเงินถึงวันที่ 25 มกราคม 2556 ทั้งนี้ สผ. ได้ประเมินผลระยะสิ้นสุดโครงการตามตัวชี้วัดในระดับดีและพบโครงการนี้สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ คือ ข้อมูลแผนที่ ภาพถ่ายเก่า การจัดทำหมุดหลักฐาน ภาคพื้นดิน และการจัดทำแนวเขตที่ดินของรัฐ ซึ่งได้นำข้อมูลมาจัดทำระบบ สืบค้นและให้บริการข้อมูลแผนที่แนว เขตทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการให้บริการหน่วยงานราชการต่างๆ ที่มีศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดูแลและให้บริการหน่วยงานราชการ ภาพรวมปี 2554 – 2560 มีหน่วยงานแจ้งความประสงค์ขอข้อมูล 148 ครั้ง
ทั้งนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีข้อสังเกตเรื่องการขอตั้งเงินคืนกองทุนสิ่งแวดล้อม ซึ่งสำนักงบประมาณแจ้งว่า สผ. สามารถเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเข้ากองทุนสิ่งแวดล้อมได้ โดยพิจารณาจากภารกิจและฐานะการเงินของกองทุนสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และได้แจ้งให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินทราบแล้ว ขณะที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มีหนังสือเรียนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ว่า สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตามหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินด้านการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพสอดคล้องตามข้อเสนอแนะของ สตง. แล้ว