นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ พร้อมด้วย ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการประสานขอตัวพระวิรพล ฉัตติโก หรือนายวิรพล สุขผล หรือเณรคำ มาดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 และสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา โดยที่ผ่านมา สำนักงานอัยการสูงสุดกังวลใจการเปิดเผยความคืบหน้าการรับตัวเณรคำ เนื่องจากเป็นเรื่องระเอียดอ่อนของ 2 ประเทศ แม้ว่าศาลจะอนุญาตให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีแล้ว แต่ยังต้องระวังไม่ให้เกิดอุปสรรคหรือปัญหาในขั้นการนำตัวผ่าน ตม. เพราะเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายของกลุ่มลูกศิษย์ที่อยู่สหรัฐอเมริกา จนไม่สามารถนำตัวกลับมาได้ โดยได้สอบถามพนักงานอัยการที่รับตัวนายวิรพลทราบว่าขึ้นเครื่องบิน เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 19 ก.ค. และจะเดินทางถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อต่อเครื่องเมื่อเวลา 14.00 น. ซึ่งการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนเรื่องอาการป่วยยังไม่มีข้อมูล แต่ผู้ต้องหามีสิทธิ์พบทนาย ญาติและได้รับรักษาครบถ้วนเช่นเดียวกับผู้ต้องหารายอื่น ซึ่งทางการสหรัฐกำชับให้ไทยปฏิบัติต่อนายวิรพลฯ ตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด เมื่อนายวิรพลฯ กลับมาแล้วขอความร่วมมือสื่อในการนำเสนอข่าวและภาพด้วย
นายอำนาจ โชติชัย กล่าววต่อว่า ดีเอสไอได้ส่งคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนพร้อมหมายจับนายวิรพล 2 คดี และสถานที่พำนักของผู้ต้องหาในสหรัฐอเมริกาให้อัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2556 แยกเป็นความผิดเกี่ยวกับเพศและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน ซึ่งทั้ง 2 คดีมีอัตราโทษและอายุความต่างกัน ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขการส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากขอตัวมาดำเนินความผิดใดก็ต้องฟ้องในข้อหานั้น จะฟ้องในข้อหาอื่นไม่ได้ ส่วนสาเหตุที่นายวิรพลไม่อุทธรณ์นั้นเป็นเรื่องส่วนตัว