สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานจากธนาคารกรุงไทยและตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างปี 2557-2564 นางสาวนฤอรกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน
โดยลักลอบขายหน่วยลงทุนของลูกค้าอย่างต่อเนื่องจำนวนหลายรายการ ด้วยการลักลอบใช้รหัสของพนักงานรายอื่น ในการอนุมัติขายหน่วยลงทุนและถอนเงินค่าขายหน่วยลงทุน รวมถึงปลอมลายมือชื่อลูกค้าในใบคำสั่งขายและใบถอนเงินค่าขายหน่วยลงทุน ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 3,506,112.49 บาท
โดย ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนางสาวนฤอรเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในตลาดทุนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของนางสาวนฤอรเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดระยะเวลาข้างต้น ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายงานการถือหน่วยลงทุน ตรวจสอบบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ หากพบการ ซื้อขายหรือการถอนเงินที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้สั่งควรปฏิเสธหรือทักท้วงโดยทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้