เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา 28 มี.ค. 2566 นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านวังกะ ม 2 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ว่าเกิดเหตุมีควันไฟลุกไหม้บนตอม่อสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ ฝั่งชุมชนบ้านวังกะ สถานทีท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอสังขละบุรี จึงได้ประสานนายวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ ให้ส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงลงไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบว่าชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่พบเหตุการณ์ได้ช่วยกันนำน้ำมาดับไฟได้แล้ว

จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นเยาวชนหญิงคนหนึ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่ตนเองและเพื่อนอีก2 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนบ้านวังกะ พากันเดินทางลงมาเที่ยวบนสะพานฯ ได้กลิ่นเหมือนไฟไหม้มาจากจนที่เกิดเหตุ  และสังเกตเห็นว่ามีควันลอยขึ้นมาจากด้านล่างของพื้นสะพาน  ซึ่งจุดที่เกิดควันไฟตอนแรกที่ตนเดินผ่านมาพบเด็กวัยรุ่นชายนั่งอยู่ 3 คน แต่ในช่วงที่เกิดมีกลุ่มควันลอยขี้นมาไม่พบวัยรุ่นทั้ง3 คนอยู่ในจุดเกิดเหตุแล้ว เมื่อเห็นเหตุการณ์ตนและเพื่อนๆจึงช่วยกันตะโกนให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างที่ใกล้นำน้ำขึ้นมาดับ ด้วยการกรอกน้ำใส่ขวดแล้วโยนขึ้นมาให้ เพื่อนำไปดับควันไฟที่ลุกไหม้ตอม่อสะพาน นอกจากนั้นชาวบ้านที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือบางนช่วยนำน้ำใส่ภาชนะวิ่งขึ้นมาบนสะพานแล้วช่วยดับไฟ จนสามารถดับไฟที่ลุกไหม้ได้ในที่สุด

ด้าน น.ส.พรเจริญ ปุณณะการี (องุ่น) 1 ในชาวบ้านที่นำน้ำมาช่วยดับสะพาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 1-2 ครั้ง  และทุกครั้งชาวบ้านก็สามารถช่วยกันดับไฟได้ เนื่องจากมีคนพบแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้าน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ยังไม่ดึกและยังมีคนมาเที่ยวบนสะพาน แต่หากเกิดเหตุในช่วงเวลาที่ไม่มีคนเห็นจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งแน่นอนสาเหตุของไฟที่ไหม้ในครั้งนี้และทุกครั้งที่ผ่านมาล้วนเกิดจากก้นบุหรี่ที่มีการสูบแล้วทิ้งลงบนสะพาน  ทั้งๆที่บริเวณหัวสะพานทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งฝั่งเทศบาลตำบลวังกะ และฝั่งชุมชนบ้านวังกะ มีการติดป้ายประกาศอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืน จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายและระเบียบ ข้อบังคับอย่างจริงจังเสียที เพื่อจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยวันนี้อีก
 
ทั้งนี้สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอสังขละบุรี เนื่องจากเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ที่สร้างจากดำริของพระราชอุดมมงคล(หลวงพ่ออุตตมะ)อดีตเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด(ไฟไหม้)ย่อมจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของอำเภอสังขละบุรี ที่ปัจจุบันเป็นเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรี

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน