ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
สส. แปลงกระดาษจากกล่อง มอบโรงเรียนสอนคนตาบอด 13 แห่ง ทั่วประเทศ
28 มี.ค. 2566

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ร่วมกับบริษัท เอสไอจี คอมบิบล็อค จำกัด และ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีเชิดชูเกียรติ โครงการ “กล่องยูเอชที รีไซเคิลได้” พร้อมมอบโล่และเกียรติบัตรแก่ภาคีเครือข่ายโครงการ ประจำปี 2565 ทั้งหมด 42 รางวัล พร้อมทั้งส่งมอบกระดาษรีไซเคิลจากกล่องยูเอชทีที่รวบรวมได้จากเครือข่าย จํานวน 1,250,000 แผ่น (2,500 รีม) ให้แก่โรงเรียนสอนคนตาบอด 13 แห่ง ทั่วประเทศไทย เป็นการช่วยลดปริมาณขยะผ่านการคัดแยกกล่องเครื่องดื่มยูเอชทีที่ใช้แล้วนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล อีกทั้งยังเป็นการสร้างความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่นๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมรณรงค์ สร้างความตระหนัก และปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับประชาชน

นายวรพล จันทร์งาม รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาขยะและความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อม เป็นปัญหาที่หลาย ๆ หน่วยงานได้ให้ความสำคัญต่อการร่วมกันแก้ไขปัญหา ผ่านนโยบายหรือโครงการตามวาระต่าง ๆ โดยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เน้นการสร้างจิตสำนึก เพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถของประชาชนในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม อันเป็นพันธกิจสำคัญที่กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมยึดเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงาน

โดยในปี 2561 กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับ บริษัท เอสไอจี คอมบิบล็อค จำกัด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์รีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม-บริษัท ไฟเบอร์พัฒน์ จำกัด และบริษัท กล่องวิเศษ จำกัด ในโครงการ “กล่องยูเอชที รีไซเคิลได้” รวมถึงในปี 2565 บริษัท อีโค่ เฟรนด์ลี่ ไทย จำกัด ในฐานะโรงงานรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มรายใหม่ ได้เข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายช่วยขับเคลื่อนการเก็บกล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วของผู้บริโภคกลับเข้าสู่โครงการฯ นับเป็นก้าวสำคัญในการร่วมกันรณรงค์ให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการจัดการกล่องยูเอชทีภายหลังจากการบริโภคอย่างถูกวิธี เพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและส่งต่อเพื่อประโยชน์ทางสังคม อันเป็นแนวทางหนึ่งในการลดปัญหาปริมาณขยะ โดยสร้างการรับรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ขยายผลออกไปสู่วงกว้าง สนับสนุนให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจัดการขยะ และการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของประชาชน ที่สอดรับกับนโยบายของประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแผนปฏิบัติการ (Action plan) ส่งเสริมการจัดการระบบการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแบบครบวงจรในประเทศไทย (พ.ศ. 2564 - 2568)

จากการดำเนินงานโครงการดังกล่าว จึงได้จัดให้มีพิธีมอบโล่เกียรติยศและเกียรติบัตร เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ภาคีเครือข่ายโครงการ ประจำปี 2565 ทั้งหมด 42 รางวัล นอกจากนี้ยังมีการแสดงจากโรงเรียนสอนคนตาบอด ชื่อชุดการแสดงว่า “กำลังใจ” รวมถึงได้มอบผลิตภัณฑ์กระดาษรีไซเคิลจากกล่องเครื่องดื่มยูเอชทีให้แก่โรงเรียนสอนคนตาบอด เป็นอุปกรณ์การศึกษาแก่นักเรียนผู้มีความบกพร่องทางสายตาจาก 13 แห่ง ทั่วประเทศ นับเป็นการส่งเสริมการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นายวรพล กล่าวทิ้งท้าย

นายวัชรพงศ์ อึงศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการเขตประเทศไทย ลาว พม่าและกัมพูชา บริษัท เอสไอจี คอมบิบล็อค จำกัด ผู้นำการให้บริการระบบและโซลูชั่นชั้นนำสำหรับบรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อ สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม กล่าวเสริมว่า โครงการ “กล่องยูเอชที รีไซเคิลได้” ริเริ่มมาตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2559 ด้วยเจตนารมณ์ในการส่งเสริม ผลักดัน ให้เกิดกระบวนการคัดแยกกล่องยูเอชทีภายหลังจากการบริโภค เพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล อันเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยลดปัญหาปริมาณขยะอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ครอบคลุมพื้นที่ 20 จังหวัด มีภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วนกว่า 500 ราย ได้แก่ ภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวม 250 หน่วยงาน เครือข่ายรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป รวม 52 ราย ภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม จำนวน 7 ราย และเครือข่ายสถานศึกษา รวม 192 แห่ง การดำเนินงานตลอดระยะเวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ และวิสัยทัศน์ในการร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ของคณะผู้ดำเนินโครงการ ผู้บริหารหน่วยงานภาคีเครือข่าย ผู้บริหารสถานประกอบการ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำชุมชน นำมาซึ่งความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายสูงสุดตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เป็นแบบอย่างในการหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถนำไปขยายผลดำเนินการและวางแผนต่อยอดไปสู่การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป

นายปฏิญญา ศิลสุภดล ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัดผู้นำด้านอุตสาหกรรมของโลกในกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม หรือกล่องเครื่องดื่มยูเอชที กล่าวต่อว่า บริษัทมีปณิธานสร้างแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พัฒนานวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในการปกป้องอาหาร ปกป้องผู้คน และปกป้องอนาคต จึงได้ร่วมริเริ่มโครงการ “กล่องยูเอชที รีไซเคิลได้” นี้ขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะร่วมรณรงค์ สร้างความตระหนัก และปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับประชาชน โดยการเสริมสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคัดแยกและการจัดเก็บกล่องยูเอชที เพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการช่วยลดปริมาณขยะที่สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 จวบจนถึงปัจจุบัน สามารถรวบรวมกล่องยูเอชทีที่ใช้แล้ว จากหน่วยงานภาคีท้องถิ่น และเครือข่ายภาคเอกชน สถานศึกษา และชุมชนในพื้นที่เป้าหมายกว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลปริมาณกว่า 2,838 ตัน หรือ 283 ล้านกล่อง โดยหนึ่งในจำนวนนี้เป็นกล่องยูเอชทีที่กลุ่มผู้บริโภคคัดแยกไว้หลังจากการบริโภค แล้วนำส่งให้กับหน่วยงานท้องถิ่น สถานประกอบการ สถานศึกษา ชุมชน คิดเป็น 800 ตัน หรือประมาณ 80 ล้านกล่อง มาผ่านกระบวนการผลิตเป็นกระดาษรีไซเคิลคุณภาพดี มีความหนาแน่นสูง เพื่อส่งมอบเป็นอุปกรณ์ทางการศึกษา ให้แก่น้อง ๆ ผู้มีความบกพร่องทางสายตา โดยในปี 2562 ทางโครงการได้ดำเนินการส่งมอบไปแล้ว จำนวน 2,000 รีม และในปี 2566 จะดำเนินการส่งมอบให้แก่โรงเรียนสอนคนตาบอด 13 แห่ง ทั่วประเทศ รวม 2,500 รีม นับเป็นก้าวแรกของการสร้างพลังแห่งความดี โดยการมีส่วนร่วมดูแลสังคมไปพร้อม ๆ กับการดูแลและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...