ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
กวก. เปิดประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ และ เครือข่าย ASEAN-CRN ชูเกษตร Net Zero
29 มี.ค. 2566

        นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะ ประธานเครือข่ายเสริมสร้างศักยภาพในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอาเซียน (ASEAN Climate Resilience Network: ASEAN-CRN)  เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ และการประชุมเครือข่าย ASEAN-CRN ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 มีนาคม 2566 ณ โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพ  ซึ่งการจัดประชุมในครั้งนี้เพื่อพัฒนาความร่วมมือของสมาชิกในการส่งเสริมการรับมือต่อสภาพอากาศที่มีผลต่อความเปลี่ยนแปลงและความยั่งยืนในภาคการเกษตร


       อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรเป็นแกนหลักในโครงการริเริ่มคาร์บอนเครดิตในภาคการเกษตรของประเทศ   โดยจับมือกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน): อบก. จัดทำ MOU ร่วมกัน  เพื่อพัฒนาโครงการคาร์บอนเครดิต T-VER และ Carbon Credit Baseline นำร่องในพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด ได้แก่ อ้อย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง ทุเรียน และมะม่วง  การดำเนินงานและความพยายามนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยและกรมวิชาการเกษตรในการพัฒนาทางด้านการเกษตรอย่างยั่งยืน  และการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตรกรรม  นอกจากนี้เพื่อให้มั่นใจถึงความน่าเชื่อถือของตลาดคาร์บอนเครดิตภาคการเกษตรของประเทศไทย กรมวิชาการเกษตรส่งเจ้าหน้าที่เข้าอบรมหลักสูตรผู้ประเมินภายนอกสำหรับโครงการภาคสมัครใจของ อบก. เพื่อพัฒนาบุคลากรในการรับรองคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้และการเกษตร อีกด้วย

       กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับ FAO พัฒนาโครงการจัดทำ Carbon credit baseline ในพืชเศรษฐกิจนำร่อง 6 ชนิด ผ่านการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุนภูมิอากาศสีเขียว (Green Climate Fund, GCF) ซึ่งเป็นกลไกทางการเงินที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) เพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในความพยายามที่จะจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งการพัฒนาเส้นฐานคาร์บอนเครดิตระดับประเทศ (National Carbon Credit Baseline) ประเทศไทยต้องการข้อคิดเห็นจาก ASEAN-CRN เพื่อแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและสร้างขีดความสามารถด้านคาร์บอนเครดิต คาร์บอนฟุตพริ้น และความเป็นกลางทางคาร์บอนในภาคการเกษตร   โดยนอกจาก FAO แล้ว องค์กรความร่วมมือของประเทศเยอรมนี (GIZ) ยังนำเสนอโครงการส่งเสริมการเกษตรอย่างยั่งยืนในห่วงโซ่คุณค่าในอาเซียน (ASEAN Agritrade Project) ซึ่งเป็นงบที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMZ) ซึ่งโครงการดังกล่าวจะสนับสนุนกรมวิชาการเกษตรในการจัดทำ Carbon credit baseline ในพืช 6 ชนิดด้วย


       อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า นอกเหนือจากการอภิปรายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคการเกษตรแล้ว ยังอยากให้สมาชิก ASEAN-CRN ให้ความสนใจกับปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะการเตรียมดิน สำหรับเพาะปลูก และการเผาซาก ตอซังพืช มีส่วนสำคัญในการปล่อย PM 2.5   ในฐานะประเทศสมาชิกอาเซียน ต้องทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาและส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบยั่งยืนเพื่อลดการเกิด PM 2.5 ในภาคการเกษตร โดยประเทศไทยยินดีแบ่งปันประสบการณ์และร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ผ่าน ASEAN-CRN เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่ง ASEAN-CRN สามารถมีบทบาทสำคัญในการอานวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนความรู้และความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกเพื่อพัฒนาแนวทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ


       “งานประชุม สัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นโดยการสนับสนุนของ FAO, Regional Office for Asia and the Pacific  (RAP), GIZ และ Mekong Institute (MI) จะเป็นเวทีอันมีค่าสำหรับสมาชิก ASEAN-CRN ในการแบ่งปันประสบการณ์ ข้อปฏิบัติและความรู้ ด้วยความพยายามร่วมกันของสมาชิก เราสามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงระบบอาหารเกษตรในอาเซียนไปสู่การปล่อยมลพิษต่ำและความยั่งยืน และสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของประเทศสมาชิกทั้งหมด” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...