สมาชิกสมาคมสินแร่ฯเอกฉันท์เลือก “ดร.วิจักษ์ พงษ์เภตรา”แห่งเซ้าเทิร์น กรุ๊ป นั่งนายกฯสมัยที่ 2 พร้อมกรรมการชุดเดิมที่กลับมาพร้อมหน้า เผยนโยบายติดตามร่างกฎหมายที่ยังค้างคาและขยายบทบาทในการแก้ปัญหาแก่มวลสมาชิก
เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ของสมาชิกสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง ณ ห้องประชุมอาคารเภตรา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ และผ่านระบบZoom โดยที่ประชุมใหญ่มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก ดร.วิจักษ์ พงษ์เภตรา ประธานกรรมการบริหารและผู้บริหารกลุ่มธุรกิจเหมืองแร่และท่าเรือ เซ้าเทิร์นกรุ๊ป ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมเป็นสมัยที่ 2 และเลือกคณะกรรมการปี 2566-2568 ประกอบด้วย นายพรสิทธิ์ ด่านวนิช ดร.สมหวัง วิทยาปัญญานนท์ นางสาวโชติกา โชติกานนท์ นางสาวพัชรินทร์ เกียรติผเกียรติผดุงกุล นายนาทสินธุ์ พิมพ์ทนต์ นายหาญพล เบ็ญจวิทย์วิไล นางสาวพรรณี ลิขิตมาศกุล และนายรัชพันธน์ มีไกมีไกรเลิศ
ภายหลังการประชุมใหญ่คณะกรรมการได้มีการหารือกันถึงแผนงานสำคัญสำหรับปี 2566 อาทิ การติดตามความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ การปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม และการสำรวจกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำเหมืองแร่และแนวทางพัฒนา เช่น การทำลายเส้นทางสาธารณะในเขตประทานบัตรเหมืองแร่ เป็นต้น
นอกจากนี้ กรรมการยังเสนอให้จัดการเสวนาที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองแร่ที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อสังคม หรือร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาจัดการสัมมนาใหญ่ประจำปีเพื่อยกระดับสมาคม รวมไปถึงกิจกรรมเพื่อสนับสนุนภาคการศึกษา เช่น การมอบทุนวิจัยระดับปริญญาโทกับมหาวิทยาลัยที่มีภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่ที่เป็นประโยชน์ต่อวงการเหมืองแร่
ดร.วิจักษ์ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่สมาชิกมอบความไว้วางใจในการทำหน้าที่ต่อ ซึ่งจากการหารือร่วมกันคณะกรรมการมีความเห็นพ้องกันว่าสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้างควรจะขยายบทบาทเพิ่มในการให้บริการช่วยเหลือสมาชิกที่ร้องขอให้ช่วยแก้ปัญหาที่ติดขัดกับส่วนราชการ เช่นด้านกฎระเบียบ หรือด้านข้อมูล
“ช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา สมาคมสินแร่ฯ ได้จัดกิจกรรมด้านวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิก มีการทำงานร่วมกับส่วนราชการหลายหน่วยงาน ผลักดันให้มีการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการ และเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากช่วงวิกฤติโควิด โดยเฉพาะการปรับปรุงภาพลักษณ์ของผู้ประกอบการเหมืองแร่ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรในประเทศอย่างคุ้มค่าและสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ” ดร.วิจักษ์ กล่าว