ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
บอร์ด สช. หนุนเชียงรายโมเดล - โรงเรียนผู้สูงอายุ ห่วงคนไทยไม่ถึงเป้าหมายสุขภาวะยั่งยืน
21 ก.ค. 2560

      พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2560 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  โดยมี นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมด้วย ณ ห้องประชุมวนาสรรค์ วนาศรมรีสอร์ท มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

      พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ รับทราบรายงานสถานการณ์ระบบสุขภาพคนไทยในปี 2560 โดยเชื่อมโยงตัวชี้วัดสุขภาพคนไทยกับ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ซึ่งเป็นกรอบการพัฒนาสากลภายใต้การนำขององค์การสหประชาชาติ การรายงานในที่ประชุมวันนี้ เป็นการหยิบยกตัวชี้วัดสุขภาพที่ส่วนใหญ่ปรากฎในเป้าหมายย่อยที่ 3 (SDG3) ที่กำหนดว่า “ชีวิตที่มีสุขภาพดีและสุขภาวะของทุกคนในทุกช่วงวัย”

    “แนวโน้มสุขภาพของคนไทยปัจจุบัน มีทั้งดีขึ้นและยังน่าห่วง จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพราะหลายเรื่องไม่สามารถใช้กฎหมายมาบังคับได้ 100% อาทิ การสวมหมวกน็อกเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนน หลายพื้นที่สามารถดูแลด้านความปลอดภัยกันเองได้อย่างดี ซึ่งพื้นที่อื่นสามารถนำไปเป็นตัวอย่างได้ สิ่งสำคัญคือ หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องควรนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ เพื่อวางแนวทางในการแก้ปัญหาที่กระทบกับสุขภาพคนไทยต่อไป”

     รายงานสุขภาพคนไทยมีการจัดทำขึ้นทุกปี ฉบับล่าสุด “รายงานสุขภาพคนไทย 2560: เสริมพลังกลุ่มเปราะบาง สร้างสังคมที่ไม่ทอดทิ้งกัน” โดยมีสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหน่วยงานหลัก สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมสนับสนุน สะท้อนให้เห็นภาพรวมสถานการณ์ทางสุขภาพนับตั้งแต่เกิดจนตาย และสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

    ด้าน ศ.ดร.ชื่นฤทัย กาญจนะจิตรา กรรมการสุขภาพแห่งชาติ อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรายงานสุขภาพคนไทย ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดทำรายงานว่า เพื่อนำข้อมูลรายงานต่อสาธารณะ และให้ผู้กำหนดนโยบายนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ประกอบการตัดสินใจ

    โดยพบสถานการณ์ที่น่าสนใจเป็นข้อมูลการเสียชีวิตของมารดาไทย เฉลี่ยที่ 24.6 รายต่อการเกิดแสนคน ซึ่งมีสาเหตุจากการตายที่ป้องกันได้ คิดเป็นร้อยละ 56 ของการตายของมารดาไทยในปี 2556 เช่น สาเหตุจากการตกเลือด ความดันโลหิตสูง ฯลฯ โดยอัตราการตายสูงสุดอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคอีสานตามลำดับ ขณะที่อัตราการเสียชีวิตของเด็กแรกเกิดและอายุต่ำกว่า 5 ปีของไทยลดลงต่อเนื่องและดีกว่าเป้าหมายของ SDGs อยู่มาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน พบว่า อัตราทารกที่กินนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก ประเทศไทยอยู่ที่ร้อยละ 15.1% ต่ำกว่าเวียดนาม ลาว เมียนมา อินโดนีเซีย และกัมพูชา

   ปัญหาของโรคติดต่อในเขตร้อนที่เพิ่มขึ้นและยังต้องการระบบจัดการดูแลรักษา คือ วัณโรค ซึ่งในปี 2558 มีผู้ป่วยวัณโรคมาขึ้นทะเบียนรักษาเพียง 62,154 คน ขณะที่ยังมีอีกกว่า 50,000 คนที่ยังไม่ได้รับการรักษา ซึ่งอาจจะกลายเป็นปัญหาสุขภาพได้ในอนาคตหากไม่มีการเตรียมการที่ดีพอ  ส่วนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่อายุ 15 ปีขึ้นไปมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ไข้เลือดออกยังมีแนวโน้มอัตราป่วยขึ้น-ลงสลับเป็นรายปีและยังสูงกว่าเป้าหมาย SDGs

  ปัญหาจากพฤติกรรมที่สำคัญ ได้แก่ โรคไม่ติดต่อ เช่น ความดันโลหิต เบาหวาน โรคอ้วน ในคนอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยมีสาเหตุสำคัญ คือ การบริโภคผัก ผลไม้ และมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังพบว่า ในปี 2557 มีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนโดยใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะถึงร้อยละ 66 โดยมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือมึนเมาก่อนขี่จักรยานยนต์ ร้อยละ 14.4 ปัญหาอุบัติเหตุเชิงระบบคือ ในช่วงเทศกาล คนไทยเดินทางด้วยระบบขนส่งทางรางและเครื่องบิน ซึ่งเป็นพาหนะที่มีความปลอดภัยสูงกว่าการเดินทางทางถนน เพียงร้อยละ 3.6 เท่านั้น

  ข้อมูลในช่วงปี  2531-2536 ที่น่าสนใจ คือ อัตราร้อยละของครัวเรือนที่ตกอยู่ในภาวะยากจน/ล้มละลาย จากค่าใช้จ่ายทางสุขภาพมีแนวโน้มลดลง และแนวโน้มชัดเจนมากหลังจากเริ่มดำเนินการระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปี 2544 และมีข้อมูลค่าใช้จ่ายต่อหัวของ 3 ระบบประกันสุขภาพในปี 2558 ว่า ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลราชการมีค่าใช้จ่ายต่อหัวถึง 12,000 บาท ขณะที่ระบบประกันสังคมมีค่าใช้จ่าย 3,145 บาท ส่วนระบบหลักประกันสุขภาพมีค่าใช้จ่ายต่ำสุดที่ 2,895 บาท

    รายงานฉบับนี้ ยังระบุถึงสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่กระทบต่อสุขภาวะ พบว่ายังน่าเป็นห่วง เพราะหลายจังหวัดมีค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองเกินกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก เช่น สระบุรี, กทม., ราชบุรี และระยอง เป็นต้น ขณะที่ปริมาณขยะที่ไม่ถูกนำไปกำจัดอย่างถูกต้องมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยตลอด เช่นเดียวกับปริมาณของเสียอันตรายจากอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้จะลดลงในปี 2557 แต่กลับเพิ่มสูงขึ้นอีกในปีถัดมา

    จากนั้น  พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้เดินทางไปศึกษาดูงานกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะด้านสุขภาพแบบมีส่วนร่วมที่วัดหัวฝาย ต.สันกลาง อ.พาน จ.เชียงราย ซึ่งมีความโดดเด่นในการหนุนเสริมสุขภาวะของผู้สูงอายุทั้งกายและจิต โดยเป็นพื้นที่ที่มีธรรมนูญสุขภาพผู้สูงอายุแห่งแรกของประเทศ มีโรงเรียนผู้สูงอายุตั้งอยู่ที่วัดหัวฝาย ทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานรัฐ เช่น พัฒนาสังคมและโรงพยาบาลพาน เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้ สร้างอาชีพ สร้างรายได้  และป้องกันโรคซึมเศร้า มีชีวิตอย่างมีคุณค่า ปัจจุบันสามารถขยายเครือข่ายผู้สูงอายุในเชียงรายได้ถึง 87 กลุ่ม และจะขยายไปยังกลุ่มจังหวัดล้านนาอื่นๆ

   อีกประเด็นหนึ่งที่นำมาเรียนรู้คือ การพัฒนาภูมิปัญญาหมอเมืองล้านนา ที่พัฒนาจากการจัดทำธรรมนูญสุขภาพ ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย มุ่งสืบสานภูมิปัญญา พัฒนาตำรับยาสมุนไพร และให้บริการสุขภาพด้วยระบบการแพทย์พื้นบ้านล้านนาในระบบบริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และโรงพยาบาลพาน จนได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่นำร่องศึกษารูปแบบการจัดการระบบภูมิปัญญาโดยพื้นที่เองของคณะกรรมการภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพระดับชาติ และเป็นรูปแบบ "เชียงรายโมเดล" ที่ปัจจุบันมีสภาหมอเมืองล้านนาและเครือข่ายหมอเมืองใน 18 อำเภอ

   พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย  รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า  "เชียงรายนับเป็นพื้นที่ตัวอย่างที่ดีในการดูแลผู้สูงอายุและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพราะคนในชุมชนทั้งหมดมีความร่วมมือร่วมใจกัน ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ชุมชนต่างๆ จะทำได้หรือไม่ อยู่ที่ความเข้มแข็งของชุมชนและผู้นำชุมชน ตลอดจนต้องใช้ใจร่วมกันพัฒนามากกว่าใช้เงินนำ

   สำหรับรัฐบาลมีนโยบายหลายประการรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในปี 2564  ที่ประเทศไทยจะมีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มเป็นร้อยละ 20 โดยงานหลักจะอยู่ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีกรมกิจการผู้สูงอายุที่มีภารกิจโดยตรง แต่ทุกชุมชนทุกพื้นที่ต้องช่วยกัน

 

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...