นายสุชาติ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับข้าราชการทุกคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้ไปประจำการในต่างประเทศ ภารกิจหน้าที่ของทูตแรงงานและที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานนั้นนอกจากจะทำหน้าที่อำนวยความสะดวก ดูแลแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศให้ได้รับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครอง ยังจะต้องทำหน้าที่ขยายตลาดแรงงานให้กว้างขึ้นควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนไทยได้ไปทำงานในต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งต้องใช้ทักษะ ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของตนเองในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการตัดสินใจในแต่ละเรื่องต้องมีความละเอียดรอบคอบ เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ
นายสุชาติ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ได้เน้นย้ำให้ทูตแรงงานและที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานนำไปยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการ คือ การแสดงออกถึงความจงรักภักดีและเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำ ปลูกฝัง สร้างความเข้มแข็ง สมัครสมานสามัคคีในหมู่คณะ ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ร่วมกับแรงงานไทย และอาสาสมัครแรงงานในต่างประเทศ รวมทั้งเป็นที่พึ่งของคนไทยในต่างประเทศได้ เนื่องจากข้าราชการที่ไปประจำการในต่างประเทศทุกคนถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทีมประเทศไทย (Team Thailand) ด้วยเช่นกัน
ปัจจุบัน กระทรวงแรงงานมีสำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศ จำนวน 12 แห่ง 11 ประเทศ โดยในครั้งนี้มีข้าราชการกระทรวงแรงงาน ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ไปประจำการที่สำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศ 6 แห่ง ได้แก่ ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดิอาระเบีย (กรุงริยาด) สำนักงานแรงงานในประเทศสิงคโปร์ สำนักงานแรงงาน ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) สาขาเมืองเกาสง ฝ่ายแรงงาน ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และสำนักงานแรงงาน ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) กรุงไทเป เป็นต้น