ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
อำเภอทองผาภูมิ จัดหน่วยบริการงานทะเบียนเคลื่อนที่ Mobile unite
01 เม.ย. 2566

กาญจนบุรี - อำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับสำนักบริหารการทะเบียนภาค7 สาขาจังหวัดกาญจนบุรี จัดหน่วยบริการงานทะเบียนเคลื่อนที่ Mobile unite ให้บริการงานทะเบียนในพื้นที่ห่างไกล  หมู่ที่ 4 บ้านปิล็อกคี่  เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย สร้างความสุขและรอยยิ้มให้ประชาชน

วันนี้ 31 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับ นายศุภพิชญ์ สงภักดิ์  หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 7 สาขาจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนอำเภอทองผาภูมิและเจ้าหน้าที่สำนักบริหารการทะเบียนภาค7 สาขาจังหวัดกาญจนบุรี กว่า 25 คน เดินทางโดยเรือหางยาวมายัง บ้านปิล็อกคี่ หมู่ที่ 4 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอกว่า 20 กม. เพื่ออำนวยความสะดวกงานด้านทะเบียน ทุกเรื่อง ตั้งแต่การแจ้งเกิด การเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล การแจ้งย้ายที่อยู่  ขอบ้านเลขที่ การยื่นขอสัญชาติไทย มาตรา 7 ทวิและมาตรา 23 กาขอมีบัตรใหม่ ของเด็กตั้งแต่อายุ 7 ขวบขึ้นไป ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน บ้านปิล็อกคี่ และหมู่บ้านใกล้เคียง เดินทางมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเรื่องการขอสัญชาติไทย เนื่องจากประชาชนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทย 

นายศรีชัย ทองผาชนะโชค อายุ 55 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ที่ 2 บ้านโบอ่อง ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเดินทางมาจากบ้าน โดยเดินทางมาตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อจะมาขอเปลี่ยนชื่อสกุล และถ่ายบัตรให้กับลูกชายของตนเอง (ด.ช.พงศ์พัทร ทองผาชนะโชค) ซึ่งมีอายุครบ 7 ปีบริบูรณ์ ที่เลือกเดินทางมาที่นี่เนื่องจากใกล้บ้าน ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปที่ว่าการอำเภอ ซึ่งหากไปที่อำเภอต้องเสียค่าเรือ - ค่ารถ – ค่าอาหาร ครั้งละมากกว่า 3,000 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่มากสำหรับชาวบ้านที่นี่ เนื่องจากส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างและเกษตรกร การออกหน่วยบริการงานทะเบียนให้แก่ประชาชน ในพื้นที่ห่างไกลแบบนี้ สำหรับตนเองถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก หากเป็นไปได้อยากให้มีทุกๆปี 

เช่นเดียวกับ น.ส. บุญมา แดงหอม อายุ 31 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 4 บ้านปิล็อกคี่ ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ที่เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าปกติการเดินทางไปติดต่อราชการที่อำเภอในแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายทั้งค่าเรือ ค่ารถ ที่มากว่า 2,500 บาท บางครั้งหากดำเนินการไม่เสร็จก็จำเป็นต้องหาที่พักค้างคืนทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งเป็นเหตุสำคัญที่ชาวบ้านไม่ค่อยอยากเดินทางไปติดต่อราชการที่อำเภอทองผาภูมิ วันนี้เมื่อรู้ว่านายอำเภอพาเจ้าหน้าที่มาให้บริการถึงหมู่บ้านจึงรีบพาแม่มา โดยวันนี้มาแจ้งเปลี่ยนชื่อของแม่ให้ถูกตามทะเบียนบ้าน เนื่องจากชื่อแม่ในทะเบียนบ้านและในบัตรไม่ตรงกัน หากเป็นไปได้อยากให้มีการจัดโครงการแบบนี้บ่อยๆ.

ด้านนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ เปิดเผยที่มาของโครงการจัดหน่วยบริการงานทะเบียนเคลื่อนที่ของอำเภอทองผาภูมิในครั้งนี้ว่าเกิดจากที่ผ่านมาเคยเดินทางลงพื้นที่บ้านปิล็อกคี่  จึงได้เห็นถึงความยากลำบากในการเดินทางที่ต้องเริ่มจากรถ มาลงเรือระยะทางกว่า 20 กม. ก่อนจะต่อด้วยการขึ้นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ อีกครั้งก่อนจะถึงหมู่บ้าน ประกอบกับชาวบ้านที่นี่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่มีอาชีพด้านการเกษตร ประมง และรับจ้าง ทำให้มีรายได้ไม่มากนัก จากการได้ลงพื้นที่เห็นถึงความยากลำบากในการเดินทางของประชาชนในการไปติดต่อราชการที่อำเภอ เนืองจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงถึงครั้งละกว่า 3,000 บาท จึงได้ตัดสินใจจัดทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้บริการประชาชน เป็นการสร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม และลดภาระค่าใช้ให้พี่น้องประชาชนได้อีกทาง ทั้งนี้บ้านปิล็อกคี่มีประชากรทั้งหมด1,700 คน จาก 320 ครอบครัว ซึ่งในช่วงเวลา 3 วัน ที่มาให้บริการมีเรื่องการขอสัญชาติและงานสถานะบุคคล เป็นเรื่องที่ชาวบ้านมาใช้บริการและขอคำปรึกษามากที่สุด นอกจากที่บ้านปิล็อกคี่ แห่งนี้แล้วทางอำเภอทองผาภูมิ และศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 7 สาขาจังหวัดกาญจนบุรี ยังมีโครงการจัดหน่วยบริการงานทะเบียนเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่อื่นๆในอำเภอทองผาภูมิ ที่เป็นพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร เพื่อออกบริการงานทะเบียนให้กับพี่น้องประชาชนได้รับการบริการอย่างทั่วถึง สะดวกสบาย และไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามนโยบาย บำบัดทุกข์ บำรุงสุข กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย


ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...