นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า บรรยากาศงานเจรจาการค้า FILMART 2023 ที่ฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อ 13-16 มีนาคมที่ผ่านมา กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังนักธุรกิจทั่วโลกเดินทางเข้าร่วมงานแบบออนไซต์เป็นครั้งแรก หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยการเจรจาการค้าในงานปีนี้ มีนักลงทุน ผู้สร้าง ผู้กำกับ ผู้ซื้อจากต่างชาติ สนใจเข้าร่วมเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทย 21 บริษัท รวมกว่า 527 นัดหมาย สร้างมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท อาทิ บริษัท เฮโล โปรดักส์ชั่น จำกัด ได้เจรจาการค้ากับบริษัทจากประเทศจีน เพื่อรับผลิตซีรีส์ จำนวน 2 ภาคๆ ละ 10 ตอน และบริษัท เรติน่า ฟิล์ม โปรดักชั่น จำกัด ได้เจรจาการค้ากับบริษัทจากประเทศอังกฤษ ที่ต้องการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ผู้ประกอบการในวงการภาพยนตร์และบันเทิงของฮ่องกง เชื่อมั่นในศักยภาพของผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างดีและมองไทยเป็นพันธมิตรสำคัญในระดับภูมิภาค เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์และต่อยอดทางการตลาดร่วมกัน โดยตลอดระยะเวลา 4 วันของการจัดงาน Thailand Pavilion ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องและคาดการณ์ว่าจะเกิดการซื้อ-ขาย การแลกเปลี่ยนคอนเทนต์และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดอีกมากในอนาคตอันใกล้
นอกจากนี้ ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งออนไลน์จากมณฑลต่างๆ ในจีน ยังได้ให้ความสนใจเข้ามาติดต่อเจรจาซื้อคอนเทนต์ไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะคอนเทนต์กลุ่มประเภทสยองขวัญ ซึ่งการเข้าร่วมงาน FILMART 2023 ยังถือเป็นการขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ของไทยอีกด้วย
สำหรับงาน FILMART ปีนี้ สามารถดึงดูดผู้ซื้อเข้าร่วมงานกว่า 7,300 ราย มีบริษัทด้านภาพยนตร์และธุรกิจเกี่ยวเนื่องร่วมออกคูหามากกว่า 700 บริษัท จาก 30 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นงานภาพยนตร์ระดับนานาชาติที่มีความสำคัญที่สุดงานหนึ่งของโลกและเป็นตลาดซื้อขายคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของเอเชีย แต่ละปีจะมีบุคคลในธุรกิจบันเทิงและผู้ซื้อที่มีความต้องการซื้อภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ รวมถึงการบริการด้านภาพยนตร์จากทั่วโลกมารวมตัวกันอย่างคับคั่ง สามารถสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องให้เติบโตสู่ตลาดโลก