นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (3 เม.ย.66) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ปรับตัวลดลงหลายพื้นที่ แต่ยังเกินมาตรฐานในระดับสีแดง 10 พื้นที่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย น่านพะเยา และจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่ค่าฝุ่นเฉลี่ยประมาณ 99 – 229 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบสูงสุดที่ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยยังพบการเผาในเขตป่าจำนวนมาก ผลกระทบจุดความร้อน (Hotspot) จากประเทศเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างรุนแรงและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีผลต่อการสะสมของฝุ่น ขอให้ประชาชนในพื้นที่ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง กลุ่มเสี่ยงให้เฝ้าระวังอาการผิดปกติและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงบริเวณภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านต้องเฝ้าระวังถึงวันที่ 10 เมษายน 2566 โดยเฉพาะช่วงวันที่ 6 - 7 เมษายน 2566 ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพราะอากาศค่อนข้างปิด แต่ระหว่างวันที่ 4 - 5 เมษายน 2566 สถานการณ์อาจบรรเทาลงได้บ้างเนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบค่าฝุ่น PM2.5 ปรับตัวลดลงเช่นกัน แต่ยังเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 3 พื้นที่ในจังหวัดเลย หนองคายและจังหวัดนครพนม อยู่ที่ 51 - 88 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คุณภาพอากาศดีมากต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ถึงวันที่ 10 เมษายนมีแนวโน้มดีขึ้นจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น เพดานการลอยตัวอากาศที่สูงขึ้น ประกอบกับ ลมทางใต้ที่กำลังแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่วันที่ 5 - 7 เมษายน 2566 ต้องเฝ้าระวังอาจมีสภาพอากาศที่ปิดได้ในบางพื้นที่ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางแอปพลิเคชัน Air4Thai