นายพิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า มีผู้ร้องเรียนพบการลักลอบทิ้งสารเคมีในพื้นที่ อ.ภาชี นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดี คพ. ได้สั่งการให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 6 นนทบุรี (สคพ.6) ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบทิ้งของเสียแหล่งใหม่
เพื่อป้องกันสารเคมีแพร่กระจายส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้าง โดย สคพ.6 ได้ร่วมกับอำเภอภาชีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ อบต.โคกม่วง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตรวจสอบการทิ้งของเสีย ในพื้นที่ หมู่ 2 และหมู่ 3 ต.โคกม่วง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
นายพิทยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่า สถานที่ถูกร้องเรียนเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลมีเนื้อที่
รวมประมาณ 70 ไร่ เป็นพื้นที่บ่อดินเก่าประมาณ 40ไร่ จุดที่เป็นพื้นที่ลักลอบทิ้งพบว่ามีการขุดหลุม 6 บ่อ
ความกว้างประมาณ 3-4 เมตร ลึกประมาณ 1-2 เมตร ของเสียที่พบในบ่อมีลักษณะเป็นของเหลวสีเขียวอ่อน ตรวจวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง มีค่า 0 - 1 เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 บัญชี 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ ลำดับที่ 5.9 ของเสียประเภทสารละลายกรดหรือด่าง ที่มี pH ต่ำกว่า 2 หรือสูงกว่า 11.5 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ การครอบครองวัตถุอันตรายดังกล่าวจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งอำเภอภาชีได้ทำการปิดกั้นห้ามเข้าพื้นที่แล้ว
จากการตรวจสภาพพื้นที่โดยรอบ มีแหล่งน้ำสาธารณะสำหรับใช้ทำการเกษตร ทำการตรวจวัดความเป็นกรด-ด่าง พบว่า มีค่า 7.4 ได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินในรางน้ำสาธารณะและบ่อน้ำในพื้นที่ 3 ตัวอย่างและตัวอย่างกากของเสีย 1 ตัวอย่าง ส่งตรวจวิเคราะห์โละหนัก เพื่อประเมินการปนเปื้อนออกสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก ทั้งนี้.สคพ.6 ได้แนะนำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเจ้าของพื้นที่ไปแจ้งความดำเนินคดีและให้เฝ้าระวังการลักลอบนำของเสียมาทิ้ง ว่าอาจเข้าข่ายมีความผิดตามพรบ.วัตถุอันตรายและพรบ.รักษาความสะอาด นายพิทยา กล่าว