คสช. ร่วมน้อมถวายพระพรในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาอย่างสมพระเกียรติ เดินหน้าหนุนงานปรองดองเตรียมชี้แจงสัญญาประชาคม เร่งคุมเข้มพื้นที่ชายแดนสินค้าเกษตรลักลอบนำเข้า
พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท เลขาธิการคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยได้กล่าวว่าเนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 28 กรกฎาคม 2560 ซึ่งทุกภาคส่วนได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติอย่างกว้างขวางในตลอดสัปดาห์นี้ ขอให้ทุกส่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เข้าร่วมและให้การสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวให้ดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและสมพระเกียรติ โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้พสกนิกรได้เข้าร่วมแสดงความจงรักภักดีในทุกกิจกรรมและทุกพื้นที่ นอกจากนี้มอบหมายให้หน่วยทหารประจำพื้นที่และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้สนับสนุนและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มกำลังความสามารถในการดำเนินโครงการจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขึ้น 28 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2560
สำหรับร่างสัญญาประชาคมที่ผ่านเวทีสาธารณะใน 4 ภูมิภาค คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ได้นำเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ในวันนี้นั้น เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ทุกส่วนงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยเฉพาะกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้นำสัญญาประชาคมไปศึกษาให้เข้าใจถึงที่มาที่ไป กระบวนการจัดทำ และผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้น หากทุกภาคส่วนร่วมกันยึดถือตามสัญญาประชาคม ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุข มีความรักความสามัคคี ทั้งนี้ การมอบหมายให้มีการศึกษาสาระสำคัญของสัญญาประชาคม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ภายหลังจากที่มีการแถลงและประกาศสัญญาประชาคมอย่างเป็นทางการ
ส่วนเรื่องปัญหาผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการในมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกรอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อให้การดูแลผลผลิตในพื้นที่ชายแดนเป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด การประชุมในวันนี้ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังในพื้นที่ชายแดนเข้มงวดในมาตรการสกัดกั้นการลักลอบการนำเข้าผลผลิตทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบกับราคาผลผลิตทางการเกษตรในประเทศ ควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวกให้กับแรงงานต่างด้าวที่จะเดินทางผ่านเข้าออกพื้นที่ชายแดน เพื่อการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในช่วงการผ่อนผันตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ด้วย นอกจากนี้ในปัจจุบันรัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานได้มีการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว ระหว่าง 24 กรกฎาคม – 7 สิงหาคม 2560 เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้เข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติงานเพื่ออำนวยความสะดวกผู้ประกอบการหรือแรงงานที่มาใช้บริการในศูนย์ดังกล่าว รวมทั้งการตรวจสอบมิให้มีกระบวนการมาเรียกรับผลประโยชน์ ในช่วงที่มีการผ่อนผันเรื่องแรงงานต่างด้าวด้วย
เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงการทำงานของศูนย์รับเรื่องร้องเรียนความประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ขณะนี้ได้จัดตั้งขึ้นแล้ว 293 หน่วย ใน 69 จังหวัด ซึ่งมีประชาชนได้เข้ามาร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ระบบการทำงานของศูนย์ ค่อนข้างชัดเจน มีคณะทำงานกลั่นกรองเรื่องร้องเรียน ก่อนที่จะส่งให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบโดยตรงดำเนินการต่อ คือ เรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ จะส่งเรื่องให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช) ส่วนเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนในการดำเนินชีวิตของประชาชน จะส่งให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พิจารณาช่วยเหลือตามความเหมาะสมต่อไป เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีความห่วงใยในข้อร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากประชน โดยเฉพาะที่เป็นเรื่องการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่พิจารณาส่งเรื่องให้หน่วยงานต่างๆ ด้วยความรอบคอบ รวมเร็ว และให้มีการแจ้งให้ผู้ร้องได้รับทราบถึงความคืบหน้า หากมีข้อมูลในเรื่องดังกล่าวครบถ้วนแล้ว