กรมการค้าภายในลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ตลาดสดเงินวิจิตร วงเวียนใหญ่ บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยคึกคัก ราคาสินค้าปรับลดลงต่อเนื่อง พร้อมย้ำพ่อค้าแม่ค้าใช้เครื่องชั่งถูกต้องได้มาตรฐาน ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุ จากการตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ตลาดเงินวิจิตร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ พบว่าบรรยากาศการจับจ่ายเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนมาซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก พ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น และราคาสินค้าหลายรายการมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มปศุสัตว์ ที่ภาพรวมปรับลดลงประมาณ 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าบางรายการจะปรับเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังอยู่ภายในโครงสร้างราคาที่กรมฯ กำกับดูแล
สำหรับการตรวจสอบราคาสินค้ากลุ่มปศุสัตว์ในตลาดเงินวิจิตร มีราคาใกล้เคียงกับราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ หมูเนื้อแดง 150 บาท/กก. น่องไก่ติดสะโพก 75 บาท/กก. น่องไก่ 75 บาท/กก. สะโพกไก่ 80 บาท/กก. ไข่ไก่เบอร์ 3 ฟองละ 3.9 บาท
ทั้งนี้ กรมฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง และตรวจสอบให้คำรับรองเครื่องชั่งก่อนนำออกใช้ และตรวจสอบความเที่ยงตรงระหว่างการใช้งาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้บริโภค ขอฝากผู้ประกอบการให้ใช้เครื่องชั่งที่ถูกต้องได้มาตรฐานในการซื้อขายสินค้าและบริการ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
สำหรับสถานการณ์ราคาอาหารสดทั่วประเทศล่าสุด หมูเนื้อแดง ราคาเฉลี่ย 153 บาท/กิโลกรัม (กก.) ลดลงจากปีก่อน 5% น่องไก่ติดสะโพก 72 บาท/กก. ลดลง 4% น่องไก่ 75 บาท/กก. ลดลง 1% สะโพก 78 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 1% ขณะที่ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาเฉลี่ย 3.78 บาท/ฟอง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและปีก่อนหน้า แต่ราคายังคงอยู่ ภายในโครงสร้างราคาของกรมฯ
ส่วนผักสดปรับราคาเพิ่มและลดตามสภาวะอากาศและภาวะตลาด โดยผักที่มีแนวโน้มปรับลดลงจากเดือนก่อน ได้แก่ ผักคะน้า ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี กวางตุ้ง ผักกาดขาวปลี ผักบุ้งจีน เป็นต้น ส่วนผักที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ ต้นหอม ผักชี พริกขี้หนูจินดา เป็นต้น โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในระยะสั้นจากผลกระทบของสภาพอากาศ
ส่วนมะนาวราคายังคงที่จากเดือนก่อน โดยราคาเบอร์ 1 และ 2 อยู่ที่ 4.95 บาทต่อลูก ซึ่งมะนาวในช่วงหน้าร้อน (มี.ค-เม.ย) จะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณผลผลิตน้อย โดยจะกลับมาให้ผลผลิตมากในช่วงเดือนพ.ค.2566 เป็นต้นไป