นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างใกล้ชิด โดยขอให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาสินค้าและบริการในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่คนเดินทางออกต่างจังหวัด เพื่อกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยว และตรวจสอบต่อเนื่องจนถึงวันที่ประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบประชาชน
สำหรับพื้นที่ ๆ ต้องตรวจสอบ ได้แก่ สถานีขนส่ง ทั้งหมอชิต สายใต้ใหม่ เอกมัย สถานีขนส่งของเอกชน สถานีรถไฟ สถานีรถไฟที่เป็นเมืองท่องเที่ยว สนามบิน ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง และสนามบินในส่วนภูมิภาค รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ทั่วประเทศ เพราะสถานที่เหล่านี้ มีโอกาสที่จะมีปัญหาเกิดขึ้น จากการที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง (ปั๊มน้ำมัน) โดยให้ตรวจสอบความถูกต้องของหัวจ่ายว่ามีปริมาณเต็มลิตรหรือไม่ เพื่อเป็นการดูแลประชาชนที่เดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งจะต้องเน้นในจังหวัดที่เป็นทางผ่านออกไปยังจังหวัดต่าง ๆ และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
นายกีรติกล่าวว่า นอกเหนือจากการตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการ ขอให้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟทั่วประเทศ และสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ผู้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ให้บริการรับฝากของ บริการรถเข็นสัมภาระ จะต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ โดยติดไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน ต้องแสดงราคาต่อหน่วย มีตัวเลขอารบิกเห็นได้ชัด อ่านง่าย และหากมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกเหนือจากราคาหรือค่าบริการ ก็ต้องแสดงให้ชัดเจนด้วย
ทั้งนี้ หากประชาชน พบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบและหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธ การจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ