ตามที่มีสื่อหลายแห่งเสนอข่าวการเบิกความของพยาน ซึ่งมีประเด็นที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานตรวจสอบคุณภาพและการระบายข้าวในสต็อกของรัฐที่ดำเนินการโดยรัฐบาล คสช. หลายประเด็น คือ อ้างว่า คสช. ปิดโกดังไม่ให้รมยา จึงทำให้ข้าวเสื่อม มีการสั่งให้ถอดกล้องวงจรปิดที่โกดัง การปฏิบัติงานตรวจสอบคุณภาพข้าวไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด มีการเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ชุดดูแลโกดังข้าว รัฐบาลชุดที่แล้วยกเลิกไม่ให้มีการเก็บปลายข้าวในโกดังกลาง เป็นการลดค่าใช้จ่าย มีการนำข้าวดีไปขายเป็นข้าวเสีย นั้น
กรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว นบข. ขอชี้แจงความเป็นจริง ดังนี้
เมื่อ คสช. เข้ามาบริหารประเทศได้สั่งปิดโกดังเป็นเวลาสองสัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบขนข้าวออกไปโดยอ้างว่าเป็นข้าว จีทูจี หลังจากนั้นก็เปิดโกดังให้รมยาตามปกติ มีหลักฐานเป็นตารางการรมยาของ ผู้รับจ้างรมยาและเอกสารการเบิกจ่ายค่ารมยาทั้งที่ อคส. และ อ.ต.ก. ข้าวที่เสื่อมนั้นเสื่อมอยู่ก่อนแล้ว ถ้าเสื่อมเพราะเข้าไปรมยาไม่ได้ในช่วงเวลาดังกล่าวก็ต้องเสื่อมทั้งโกดัง ไม่ใช่เสื่อมเฉพาะบางกอง หรือเสื่อมเฉพาะ ข้างในกอง การให้มีกล้องวงจรปิดที่โกดัง เพื่อเฝ้าดูการขนย้ายข้าวเข้าออกป้องกันการขนย้ายข้าวโดยไม่ชอบ ไม่มีการสั่งให้ถอดออก เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จะมีการสั่งให้ถอดกล้องออก ไม่มีการสั่งเปลี่ยนแปลงผู้ดูแลโกดังข้าว เพียงแต่ให้ใส่กุญแจที่ดูแลโดยเจ้าหน้าที่ทหารเพิ่มอีกหนึ่งดอก
ข้าวสารจากการรับจำนำต้องมีคุณภาพถูกต้องตามมาตรฐานข้าวที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ทุกกระสอบ การเก็บตัวอย่างของคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว (คณะ 100 สาย) ที่เก็บตัวอย่างร้อยละสาม สอดคล้องกับวิธีการชักตัวอย่างข้าวตามมาตรฐานสินค้าเกษตร และมาตรฐาน ISO (ISO 13690 : 1999) ไม่ได้เก็บตัวอย่างร้อยละห้า เนื่องจากมีกำหนดไว้เฉพาะการตรวจข้าวหอมมะลิที่ส่งออกเพียงชนิดเดียว ข้าวชนิดอื่นไม่ได้กำหนดเกณฑ์ไว้ หากกองข้าวที่เก็บรักษามีข้าวคุณภาพถูกต้องทั้งกอง ไม่มีข้าวผิดมาตรฐานปนอยู่จะชักตัวอย่างมากหรือน้อยก็ไม่มีทางพบข้าวที่ผิดมาตรฐานได้ การชักตัวอย่างข้าวไม่ถึงร้อยละห้า จึงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคุณภาพข้าวในกองตามที่เป็นจริง และไม่มีผลทำให้ข้าวชนิดหนึ่งเปลี่ยนแปลงกลายเป็นอีกชนิดหนึ่งได้ เช่น กองข้าวเหนียวแต่ตรวจพบว่าข้างในกองมีต้นและปลายข้าวขาวซุกอยู่
การรับจำนำข้าวที่ผ่านมาของรัฐบาลในอดีต ไม่เคยให้เก็บข้าวท่อนหรือปลายข้าวไว้ในโกดังกลาง เพราะเก็บรักษายาก เสื่อมคุณภาพเร็ว แต่เริ่มมีการเก็บข้าวท่อนปลายข้าวในโกดังในยุครัฐบาลชุดที่แล้วปรากฏตามมติของอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดที่แล้วในการประชุมเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2554 และมีปริมาณมากปรากฏตามบัญชีการเก็บข้าวท่อนและปลายข้าวในโกดังกลางและจากการไปตรวจปริมาณของคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว สำหรับประเด็นการระบายข้าวในสต็อกนั้น กรมการค้าต่างประเทศได้ชี้แจงโดยละเอียดชัดแจ้งแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา