นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จัดชุดลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ พบว่าบรรยากาศการซื้อขายสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้หลายแห่งคึกคักกว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยในปีนี้ปริมาณสินค้ามีเพียงพอกับความต้องการ ทั้งในกลุ่มอาหารสด ผัก ผลไม้ ของแห้ง และด้านราคา มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นข้อดี ที่จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย และทำให้เศรษฐกิจมีการขับเคลื่อนดีขึ้น และจากรายงานการสำรวจราคาสินค้าทั่วประเทศในขณะนี้(10 เม.ย.66) พบว่า ไม่ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัม (กก.) ละ 152 บาท เนื้อไก่ แบ่งเป็นน่องไก่สติดสะโพก ราคา 75 บาท/กก. น่องไก่ ราคา 77 บาท/กก. สะโพก ราคา 80 บาท/กก. และเนื้ออก ราคา 77 บาท/กก. ขณะที่ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคา 3.79 บาท/ฟอง น้ำมันปาล์ม เฉลี่ย 45 บาท/ขวด เป็นต้น และกองชั่งตวงวัด กรมการค้าภายในก็ได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง มาตรวัดก๊าซ LPG และก๊าซ NGV ตามสถานีบริการเพิ่มเติมจากปกติที่ได้ตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว เน้นตามเส้นทางสายหลักและสายรองที่มีประชาชนใช้เดินทางออกต่างจังหวัดหรือระหว่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก เช่น ถนนพหลโยธิน ถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ถนนเพชรเกษม ถนนสายบางนา-ตราด และถนนพระราม 2 เป็นต้น
“ได้มีการส่งสายตรวจกรมการค้าภายใน พร้อมทั้งประสานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ตรวจสอบเข้มงวดต่อเนื่อง กำกับดูแลการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงเทศกาลอย่างใกล้ชิด หากผู้บริโภคพบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาสามารถร้องเรียนสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายจุรินทร์กล่าว