รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ในส่วนของกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่เป็นผู้มีประสบการณ์โดยตรงเกี่ยวกับการร่างกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นคนสำคัญของบ้านเมืองในอดีต รวมทั้งสัดส่วนของกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ก็เป็นอดีตกรรมการการเลือกตั้ง เชื่อว่าท่านเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งในอดีตเป็นอย่างดีอยู่แล้ว สามารถให้แง่คิด มุมมองต่างๆ ในการออกแบบรัฐธรรมนูญดังนั้นในส่วนนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เรามีอดีตกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 2 ท่าน เข้าไปร่วมเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ก็คิดว่าท่านจะใช้ประสบการณ์ต่างๆ เหล่านี้ เสนอแนะสิ่งต่างๆ ที่ถูกต้องและเหมาะสมได้ โดยสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ คือ จะต้องออกแบบกลไก ในการกลั่นกรองบุคลากรทางการเมืองเข้าสู่ระบบการเมืองและสังคมไทย
“ทั้งนี้ต้องคำนึงว่าทำอย่างไรก็แล้วแต่ที่จะสามารถส่งเสริมให้คนดี คนมีความสามารถเข้าสู่การเมืองไทยและขจัดการทุจริตการเลือกตั้งให้คนซึ่งประสงค์จะใช้ทางการเมืองเพื่อเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยยอมที่จะใช้เงินเป็นจำนวนมากในการเข้าสู่การเมืองไทย หลุดพ้นไปจากการเมืองไทยไปให้ได้”รศ.สมชัยกล่าว
สำหรับกรรมการการเลือกตั้งชุดปัจจุบัน พร้อมที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ในทุกๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นข้อมูลปัจจุบัน รวมถึงข้อเสนอแนะประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ ว่าจำเป็นจะต้องมีการเขียนรายละเอียดของรัฐธรรมนูญอย่างไรบ้างเพราะจากบทเรียนในการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ผ่านมาน่าจะเป็นบทเรียนให้กรรมการยกร่างฯ ชุดปัจจุบัน นำไปปรับใช้ในการที่จะกำหนดวิธีการ ซึ่งประเด็นสำคัญ คือ จะต้องมองให้ออกว่ารากฐานของปัญหาการเมืองไทยที่แท้จริงคืออะไร ซึ่งอาจจะไม่ใช่การไปดูระบบสากลและลอกเลียนแนวคิดของต่างประเทศมาคงไม่เหมาะสม แต่จะต้องมองถึงบริบทของสังคมไทยอย่างแท้จริงว่าการเมืองไทยของเรานั้น มีการใช้เงินเป็นฐานการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองและหาทางกระทำการทุจริตการเลือกตั้งทุกรูปแบบที่สามารถจะทำได้ ดังนั้นจึงอยากฝากไปถึงกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญในการคำนึงถึงหลักเหตุและผลและยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นประการสำคัญเพราะถึงแม้จะไม่ถูกใจฝ่ายทางการเมืองแต่ประชาชนก็ยังให้การสนับ สนุนกรรมการยกร่างฯ อย่างแน่นอนถ้าทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามในการจัดทำประชามติ ภายหลังจากมีการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าส่งมาให้ กกต. ดำเนินการ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือนครึ่งถึง 4 เดือน ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ กกต. สามารถทำได้โดยไม่ติดขัดอะไร นายสมชัย กล่าว