นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยหลังให้การต้อนรับ เซซิเลีย กาลาเรตา เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเปรูประจำประเทศไทย เนื่องในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ และหารือความร่วมมือทางการเกษตรระหว่างไทย-เปรู ว่า นับเป็นโอกาสดีที่จะได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเปรูให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งด้านการขยายความร่วมมือทางการค้าและความร่วมมือด้านการเกษตร ซึ่งปัจจุบันสินค้าเกษตรที่ประเทศไทยอนุญาตให้นำเข้าจากเปรู ได้แก่ เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ ผลองุ่นสด ผลอะโวกาโดสดพันธุ์แฮส และ บลูเบอรี่ ซึ่งสาธารณรัฐเปรูสามารถส่งออกผลอะโวกาโดพันธุ์แฮสมายังประเทศไทยได้ตั้งแต่ปี 2562 โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง เงื่อนไขการนำเข้าผลอะโวกาโดสดจากสาธารณรัฐเปรู พ.ศ. 2562 ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการแมลงศัตรูพืชกักกัน นอกจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบระบบการส่งออกผลอาโวกาโดสดพันธุ์แฮส โดยกรมวิชาการเกษตรเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน
ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการตรวจสอบระบบ ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2562 ระหว่างวันที่ 12-24 มิ.ย.โดยครั้งที่ 2 ได้เลื่อนออกไปเนื่องจากการระบาดของสถานการณ์โควิค (ระหว่างปี 2563-2565) แต่ทางกรมวิชาการเกษตรยังอนุญาตให้นำเข้าได้ ส่วนการตรวจสอบระบบครั้งที่ 2 กำหนดระหว่างวันที่ 14-24 เม.ย 2566 ซึ่งกรมวิชาการเกษตรคาดว่าผลการตรวจสอบระบบครั้งที่ 2 จะประสบผลสำเร็จด้วยดี นอกจากนี้สาธารณรัฐเปรูยังได้ยื่นขอเปิดตลาดผลทับทิมสดจากเปรูมายังประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรได้เริ่มต้นกระบวนการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชสำหรับการนำเข้าผลทับทิมสดจากเปรูแล้วตามแผนการดำเนินงานในปี 2566
จากการหารือในเบื้องต้นกรมวิชาการเกษตรมีแผนที่จะเปิดตลาดส่งมะพร้าวน้ำหอมไปยังสาธารณรัฐเปรู เพื่อเป็นการส่งเสริมการส่งออกสินค้าพืชของไทยอีกทางหนึ่งด้วย เนื่องจากมะพร้าวถือเป็นสุดยอดสินค้าที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น อีกทั้งมะพร้าวยังถูกจัดอยู่ในประเภทสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ หรือ Superfoods ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภครับทราบถึงคุณประโยชน์ที่ดีทางด้านสุขภาพ ซึ่งทางเปรูได้ให้ความเห็นว่ามะพร้าวน้ำหอม มะม่วง และแก้วมังกรจากประเทศไทยเป็นสินค้าที่มีศักยภาพในตลาดเปรู