เมื่อวันที่ 22 เม.ย.66 กรมทางหลวงชนบท (ทช.) รายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองดู อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งปัจจุบันผลการดำเนินงานมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 โดยได้ดำเนินงานโครงสร้างสะพานแล้วเสร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก การติดตั้งราวสะพาน ผนังบนราวสะพาน เสาไฟฟ้าแสงสว่าง และการเตรียมติดตั้งท่อระบายน้ำบนสะพาน คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม 2566 นี้ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทาง
ของประชาชนบ้านสุไหงมูโซ๊ะ ให้สามารถเดินทางเชื่อมระหว่างเกาะกับฝั่งแผ่นดินใหญ่บ้านตันหยงละไน้ได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัย ประหยัดเวลาในการเดินทาง หากมีเหตุฉุกเฉินหรือการอพยพประชาชน ในกรณีเกิดภัยพิบัติในอนาคต เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน สนับสนุนเศรษฐกิจการขนส่งสินค้าทางการเกษตรและการประมงในพื้นที่อย่างยั่งยืน
จ.สตูล ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนบ้านสุไหงมูโซ๊ะ หมู่ที่ 5 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล ว่า หมู่บ้านมีสภาพพื้นที่เป็นเกาะตั้งอยู่ใกล้กับบ้านตันหยงละไน้ หมู่ที่ 1 บนฝั่งแผ่นดินใหญ่ ยังไม่มีถนน/ไฟฟ้า ทำให้การเดินทางระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่เป็นไปด้วยความยากลำบากมายาวนานกว่า 30 ปี เนื่องจากการเดินทางด้วยเรือต้องอาศัยจังหวะการขึ้นลงของน้ำทะเล และเสี่ยงภัยคลื่นลมในช่วงมรสุม ส่งผลให้ประชาชนประสบปัญหาเรื่องการกำหนดเวลาในการเดินทางเป็นอย่างมาก จ.สตูล จึงขอให้ ทช.พิจารณาสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างสะพานข้ามคลองดู แต่เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเลน จ.สตูล ตอนที่ 1 จึงจำเป็นต้องขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี เพื่อขอใช้พื้นที่สำหรับดำเนินโครงการ โดยได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติเห็นชอบ จากนั้นในปี 2563 ทช. จึงได้เริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองดู อ.ละงู จ.สตูล มีจุดเริ่มต้นของโครงการจากแยกทางหลวงชนบทสาย สต.3018 จ.สตูล กม.ที่ 18+378 (ฝั่งบ้านตันหยงละไน้) และมีจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณหน้ามัสยิดอัลมุตตกีน
(ฝั่งบ้านสุไหงมูโซ๊ะ) โดยก่อสร้างเป็นสะพานแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 1,320 เมตร พร้อมก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กต่อเชื่อม ยาว 1,742 เมตร ขนาด 2 ช่องจราจร ไป-กลับ ระยะทางรวม 3,062 เมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 291 ล้านบาท