นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่า ขณะนี้มีแนวโน้มเติบโตตลอดปีงบประมาณที่ 5% (หรือราว 6,600 ล้านบาท) แม้ว่าในปัจจุบันยอดการขนส่งตู้สินค้าลดลง 8-10% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ แต่ผลประกอบการ 2 ไตรมาสแรกนั้นมีแนวโน้มที่ดี โดย กทท. มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 460 ล้านบาท ผลจากกระแสความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
“ขณะนี้การท่าเรือมีการขนส่งตู้สินค้าที่ลดลงกว่า 10% แต่เรายังมีสัญญาณที่ดีที่สามารถทำกำไรให้โตได้ โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 460 ล้านบาท ผลจากการนำเข้ายานยนต์รถไฟฟ้าที่ขณะนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ทำให้ตลาดการนำเข้า-ส่งออกรถ EV และชิ้นส่วนรถยนต์โตขึ้น การขนส่ง RORO ผ่านท่าเรือแหลมฉบังจึงมีความสำคัญและมียอดเพิ่มสูงสุดในประวัติศาสตร์ จาก 700,000คัน เพิ่มเป็น 1,200,000 ล้านคันต่อปี อย่างไรก็ตาม กทท. จึงต้องเตรียมความพร้อมทั้งในด้านบริการและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับโอกาสและการเติบโตของตลาดรถ EV ที่ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นต่อไป” นายเกรียงไกร กล่าว
ทั้งนี้ นอกจากโครงการต่างๆ ของการท่าเรือที่จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานส่งเสริมรายได้ทางเศรษฐกิจ สนับสนุนภาคการค้าและการขนส่งของประเทศให้เติบโตควบคู่กันไปแล้ว กทท. ยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับมหภาคและส่งเสริมการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งยังคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและการตอบแทนสังคม โดยพัฒนาท่าเรือสู่ Green Port ในการสนับสนุสสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และการดำเนินโครงการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่องและวัดผลได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเป้าหมายสูงสุดในการทำกำไรเชิงเศรษฐศาสตร์และสังคมเพื่อก้าวสู่ความยั่งยืน
นอกจากนี้ ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือแหลมฉบังเฟส3 ขณะนี้งานถมทะเลพื้นที่1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่าง
ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างพื้นที่ถมทะเล 2 (งานถมและบดอัด) และพื้นที่ถมทะเล 3 (งานคันหินล้อมพื้นที่) การท่าเรือสามารถส่งมอบพื้นที่ให้ GPC ได้ภายใน พ.ย.68 ซึ่งช้ากว่าที่กำหนดไว้คือ พ.ย.66 ส่วนสายการเดินเรือภายในประเทศสามารถดำเนินการได้และมีความเป็นไปได้ ทั้ง 3เส้นทาง ท่าเรือมาบตาพุด(ระยอง)- ท่าเรือแหลมฉบัง /ท่าเรือไฟร์ซัน(สมุทรสงคราม) - ทลฉ. /และทลฉ. - สุราษฎร์ธานี