เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 นายชัยสิทธิ์(ทนายน้อย) ปลั่งศรีสกุล ทนายความในภาคประชาชน เผยว่า นายสุรินทร์ อินทรัตน์ ผู้อำนวยการกลุ่มฯ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานศาลปกครองเพชรบุรี ได้มีหนังสือที่ ศป 0011/ธ317 ลงวันที่ 20 เมษายน 2566 ถึง เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 เรื่อง ขอทราบผลการปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองเพชรบุรี คดีหมายเลขดำที่ ส.2/2565 ว่า ตามที่ศาลฯ ได้มีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้เทศบาลเมืองประจวบฯผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ดำเนินการปิดจุดระบายน้ำล้นที่ฝายน้ำล้น(weir) ทุกจุด เพื่อไม่ให้น้ำเสียไหลล้นลงบ่อผันน้ำฝนลงสู่ทะเลบริเวณอ่าวประจวบคีรีขันธ์ และทำการซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ใช้ในการปิดกั้นน้ำทะเลเพื่อมิให้น้ำทะเลไหลเข้าออกมารวมกับบ่อผันน้ำฝนและน้ำเสีย รวมทั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ผู้ถูกฟ้องคดีที่2 และเทศบาลเมืองประจวบฯ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันหาวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหากรณีมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากในช่วงฤดูฝน ฤดูมรสุม หรือหากมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง เพื่อมิให้เกิดปัญหาน้ำท่วมต่อไป ทั้งนี้ให้ดำเนินการทันทีที่ได้รับคำสั่งศาล จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น บัดนี้สำนักงานศาลปกครองเพชรบุรีจึงขอทราบผลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งศาลดังกล่าวว่า เทศบาลเมืองประจวบฯ ผู้ถูกฟ้องคดีที่3 ได้มีการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวแล้วหรือไม่ อย่างไร โดยขอให้ชี้แจงเป็นหนังสือและแสดงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องส่งให้สำนักงานศาลปกครองเพชรบุรีทราบภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือนี้
นายชัยสิทธิ์(ทนายน้อย) ปลั่งศรีสกุล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางจังหวัดประจวบฯ ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานและเชิญประชุมคณะทำงานฯ ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมหว้ากอ ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ
ประจวบคีรีขันธ์