วันนี้ 2 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.66 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ปี 2566 เมื่อนับถอยหลังเหลือ 12 วันเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันผู้สมัคร ส.ส.แต่ละพรรคการเมืองได้ลงพื้นที่หาเสียงกันตั้งแต่เช้ามืด เช่นเดียวกันกับผู้สมัครหน้าใหม่อย่างนายเจษฎา เอี่ยมปุ่น หรือ “หนุ่ม เสรีกาญจน์” ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี พรรคก้าวไกล เขต 3 เบอร์ 7 ที่ได้เดินสายหาเสียงไปตามพื้นที่ต่างๆของพื้นที่ เขต 3 ที่ประกอบไปด้วย อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน (ยกเว้น ตำบลหนองโรง ตำบลทุ่งสมอ ตำบลดอนเจดีย์ ตำบลหนองสาหร่าย)
ทั้งนี้ นายเจษฎา เอี่ยมปุ่น หรือ “หนุ่ม เสรีกาญจน์” กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หาเสียง ได้พูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน กระแสจากพี่น้องทุกคนให้การตอบรับกลับมาอย่างดีมากทั้งๆที่ผมเพิ่งลง สมัคร ส.ส. ลงในนามพรรคก้าวไกลสมัยแรก นั่นแสดงว่า พ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี รวมทั้งนักธุรกิจ ต้องการจะเปลี่ยนแปลงจริงๆ โดยเฉพาะนโยบาย รีดไขมันทหารโดยเฉพาะการลงพื้นที่ ภาพรวมค่อนข้างดีและสนุกสนานในการลงพื้นที่ เมื่อพูดถึงกระแสพบว่ากระแสของพรรคก้าวไกลกำลังมาแรง ตนอยากฝากพี่น้องประชาชนว่าถึงแม้โพลเราจะนำหรือไม่นำ ก็ไม่อยากให้ประมาท เพราะคะแนนจริงคือวันที่ 14 พ.ค.66 จึงอยากเชิญชวนให้มาเลือกก้าวไกลให้ถล่มทลาย เอาทหารออกจากการเมือง เอาเผด็จการซ่อนรูปออกไปให้ได้
สำหรับนโยบายที่ประชาชนเข้าถึงมากที่สุดคือ นโยบายสวัสดิการถ้วนหน้า เพราะเป็นนโยบายที่เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ตั้งแต่เด็กแรกเกิด วัยเรียน วัยทำงาน และวัยผู้สูงอายุ โดยพรรคก้าวไกลได้เสนอรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า คือ เด็กเล็กเกิดมารับเลย 3,000 บาท เป็นกิฟต์เซ็ตจากรัฐบาล และสำหรับเด็กแรกเกิด 0-6 ปี มีเงินอุดหนุนเป็นจำนวนเงินเดือนละ 1,200 บาท ในช่วงของวัยเรียนก็เรียนฟรี มีรถรับส่ง ในส่วนของวัยทำงานก็จะเพิ่มค่าแรงเป็น 450 บาท ทำทันทีไม่ต้องรอ แล้วก็จะมีเรื่องของประกันสังคมถ้วนหน้า เจ็บป่วยนอกจากยกระดับการรักษาพยาบาลแล้วก็มีค่าเงินชดเชยและมีค่าเดินทางสำหรับไปหาหมอ ในส่วนของผู้สูงวัย นโยบายนี้จะตอบโจทย์ในพื้นที่เขต 3 อย่างมาก เนื่องจาก อำเภอท่ามะกา และ อำเภอพนมทวน กำลังกลายเป็นสังคมของผู้สูงวัย ซึ่งผู้สูงวัยค่อนข้างให้ความสนใจกับนโยบายนี้เราต้องการเพิ่มเงินให้ผู้สูงวัย จากเดือนละ 600 บาท เป็น 3,000 บาท เพื่อที่จะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างมีคุณภาพ
ทั้งนี้หากได้เป็นรัฐบาล พรรคก้าวไกลประกาศแล้วว่าเราต้องการที่จะทำการเมืองดี โดยใน 100 วันแรกเราจะเสนอทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญโดยประชาชน โดยมีการตั้ง สสร. ที่มาจากประชาชน เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
และหากตนได้เป็น ส.ส.ตนจะผลักดันวาระกฎหมายในเรื่องของการควบคุมมลพิษไม่ว่าจะเกิดจาก PM 2.5 โรงงานอุตสาหกรรม ที่ประชาชนชาวอำเภอท่ามะกา และอำเภอพนมทวน ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพมากที่สุดเป็นลำดับต้นๆ เป็นปัญหาหลักที่คิดว่าในพื้นที่นี้ควรได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะในเรื่องของการลักลอบเผาอ้อย เราจะเห็นว่าแม้ในปัจจุบันไม่มีการเผาอ้อยเข้าโรงงาน แต่เมื่อตัดอ้อยเสร็จยังคงมีการเผาซังอ้อยใบอ้อยอยู่ เราควรคิดว่าจะต้องแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง และจะเป็นวาระเร่งด่วน
การเลือกตั้งในครั้งนี้ตนคิดว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่และนิวโหวตเตอร์ จะเป็นกลุ่มพลังหลักของเราในครั้งนี้ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะมีความสนุกมากขึ้นเพราะว่านิวโหวตเตอร์และคนรุ่นใหม่ที่กล่าวมาถือว่าเป็นหัวคะแนนธรรมชาติ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้ตนคิดว่าคะแนนในส่วนของเจนเนอเรชั่นอื่นๆ ก็มีความใกล้เคียงกัน การเลือกตั้งครั้งนี้สนุกแน่นอน ตนมั่นใจว่าเราจะได้คะแนนจากเจนเนอเรชั่นอื่นๆ ด้วยไม่ว่าจะเป็นเจนวาย เจนเอ็กซ์ หรือเบบี้บูมเมอร์ ในสัดส่วนที่มากขึ้นกว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2562 แน่นอน เพราะประชาชนมีความคิดที่อยากเปลี่ยนรัฐบาล 8 ปีที่ผ่านมา หลายๆคนบ่น ไปที่ไหนมีแต่คนบ่น ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เรามีโอกาสที่จะจัดตั้งรัฐบาล
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน