นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ และ นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดศูนย์ การปฏิบัติงานต่อต้านข่าวเท็จในการเลือกตั้ง ส.ส. โดยนายฐิติเชฏฐ์ ย้ำว่า บางข่าวไม่จำเป็นต้องเสนอ กกต. ศูนย์ฯ มีอำนาจตรวจสอบและดำเนินการแก้ไข ชี้แจงข่าวปลอม และดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ กกต.พิจารณาอนุมัติดำเนินการ ขณะเดียวกัน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังมีคนต้องการสร้างความวุ่นวายทำให้การเลือกตั้งไม่ราบรื่นและส่งผลกระทบต่อการทำงานของ กกต. และส่งต่อกันในโซเชียลมีเดีย ซึ่ง กกต. ได้ดำเนินการแก้ไขชี้แจงและดำเนินคดีไปบ้างแล้ว เชื่อว่าข่าวปลอมในการเลือกตั้งครั้งนี้จะลดลง ขณะที่นายปกรณ์ ชี้แจงกรณีกล่าวหาว่า กกต. พิจารณายุบพรรคติดเทอร์โบ ขอยืนยันว่า กกต. ดำเนินการตามระเบียบและข้อกฎหมายที่มีที่จะต้องทำด้วยความรวดเร็วแต่ที่สำคัญและเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างเต็มที่แล้ว เช่นเดียวกับการแบ่งเขตก็ทำตามกฏหมาย พร้อมยืนยัน กกต. ให้เกียรติ ส,ส. เพราะเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย ส่วนกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีดีเบต พูดว่า กกต. มีการเปลี่ยนแปลงสูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นการพูดที่สร้างความเข้าใจผิดต่อการทำหน้าที่ของ กกต. โดยได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว และจะมีการพิจารณาหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลงเพราะไม่ต้องการให้การพิจารณาของ กกต. มีผลอย่างหนึ่งอย่างใดกับการเลือกตั้ง ส่วนจะถึงขั้นแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่จะต้อง รอ มติจาก กกต. ก่อน โดยจะต้องพิจารณาจากข้อมูลที่ฝ่ายกฎหมายของ กกต. ส่งมา นอกจากนี้ นายปกรณ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ในอีก 1-2 วันนี้ กกต. จะเปิดเผย มติบางอย่างออกมา ซึ่งผู้สื่อข่าวพยามสอบถามว่า มติดังกล่าวจะมีผลอย่างหนึ่งอย่างใดกับพรรคการเมืองหรือไม่ นายปกรณ์ ”ยิ้ม” แต่ไม่ได้ตอบคำถามนี้กับสื่อมวลชน ทำให้เข้าใจได้ว่า มติของ กกต. ที่จะมีขึ้นอาจส่งผลกับพรรคการเมืองบางพรรคแน่นอน ส่วนกรณีเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ที่หลายคนยังคงคาใจ ยืนยันว่า เป็นการเดินทางไปเพื่อปฎิบัติหน้าที่ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ หากไม่ไป ก็อาจเกิดปัญหามากว่านี้หลายเท่า และสำนักงาน กกต. ได้ชี้แจงไปครบถ้วนแล้ว โดยนายปกรณ์ ยืนยัน และให้สัญญาด้วยตำแหน่งของตัวเอง ว่า กกต.จะไม่ปิดบังข้อมูลอะไร จะชี้แจงข้อเท็จจริง ทุกอย่างให้ชัดเจน