ทอท.ลุ้นรัฐบาลใหม่เคาะรับโอนบริหาร 3 ท่าอากาศยานภูมิภาค เผยปัจจุบัน ทย.เร่งแก้ข้อบกพร่อง พร้อมขอใบรับรองสนามบิน คาดแล้วเสร็จภายใน ส.ค.นี้ มั่นใจมีแผนเพิ่มศักยภาพ และโอกาสทางการบิน
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการรับโอนบริหาร 3 ท่าอากาศยานภูมิภาคจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) โดยระบุว่า ปัจจุบันทอท.ยังไม่ได้รับโอนสิทธิเข้าไปบริหารทั้ง 3 ท่าอากาศยาน ได้แก่ อากาศยานอุดรธานี, ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และท่าอากาศยานกระบี่ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนที่ ทย.ต้องขอใบรับรองท่าอากาศยานสาธารณะ
โดยปัจจุบันทราบว่าสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาออกใบอนุญาตเนื่องจาก ทย.ยังอยู่ระหว่างแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ตามที่ กพท.ได้ให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ซึ่งจากการประเมินของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะใช้เวลาแก้ไขข้อบกพร่องและพิจารณาออกใบอนุญาตในอีก 3 – 4 เดือนหลังจากนี้ หรือภายในเดือน ส.ค.2566
อย่างไรก็ดี หลังได้รับใบรับรองท่าอากาศยานสาธารณะแล้ว การโอนสิทธิบริหาร 3 ท่าอากาศยานนั้น จำเป็นต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามอบสิทธิให้ ทอท.เข้าไปบริหารอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นเพียงการอนุมัติในกรอบการดำเนินงาน ดังนั้นต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่ด้วยว่าจะให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร โดยหาก ครม. เห็นชอบ ทอท. ก็จะเข้าไปบริหารจัดการท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่งพร้อมกันทันที
สำหรับภารกิจแรกที่ ทอท.จะต้องเข้าไปดำเนินการหลังรับโอนสิทธิบริหารท่าอากาศยานภูมิภาค จะต้องดำเนินการเรื่องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) และสังหาริมทรัพย์ (ครุภัณฑ์) รวมถึงเรื่องการถ่ายโอนบุคลากรให้แล้วเสร็จ โดยเบื้องต้น ทอท.มีทางเลือกในการรับสมัครบุคลากรของ ทย.เพื่อปฏิบัติงานในท่าอากาศยานเช่นเดิมโดยจะเปิดรับบุคลากรส่วนดังกล่าวเข้ามาเป็นพนักงานของ ทอท.ด้วย
นายกีรติ กล่าวด้วยว่า ผลบวกของการโอนสิทธิบริหาร 3 ท่าอากาศยานภูมิภาคนั้น จะช่วยลดภาระงบประมาณในการลงทุนของภาครัฐ เพราะ ทอท. จะนำเงินรายได้ของ ทอท. มาลงทุนพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานดังกล่าวทั้งหมด โดยไม่ใช้งบประมาณของภาครัฐ อีกทั้ง ทอท.ยังสามารถใช้เครือข่ายทางการบิน เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางบินและทำการตลาดร่วมกันระหว่างท่าอากาศยานใกล้เคียง ทำให้เพิ่มโอกาสรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเกิดขึ้นกับ3 ท่าอากาศยานภูมิภาคนี้ด้วย
ส่วนกรณีของการเข้าไปบริหารท่าอากาศยานกระบี่ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่สร้างรายได้ให้กับ ทย.อยู่แล้วนั้นทอท.มองว่าหากเข้าไปบริหารท่าอากาศยานกระบี่ จะเกิดโอกาสทางการบินอีกมาก เพราะจะลดความแออัดจากท่าอากาศยานภูเก็ต และยังสามารถเปิดทำการบินระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานกระบี่ได้มากขึ้นด้วย ส่วนท่าอากาศยานอุดรธานี และท่าอากาศยานบุรีรัมย์ เป้าหมายของ ทอท.จะพัฒนาให้เป็นประตูของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะสนับสนุนให้มีเที่ยวบินตรงจากภูมิภาคต่างๆ ของโลกมาใช้บริการ
“การที่ ทอท. เข้ามาบริหารท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่งของ ทย. จะสามารถทำให้ผู้โดยสารได้รับการบริการที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีเที่ยวบินที่หลากหลายเพิ่มขึ้น จากการเปิดเส้นทางบินตรงเป็นทางเลือกในการเดินทางให้แก่ประชาชนมากขึ้น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น มั่นใจว่าประชาชนจะเข้าใจถึงเป้าหมายที่ทอท.จะเข้าไปบริหารท่าอากาศยานเหล่านี้”