ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
สธ.แจงขายกัญชา-บุหรี่ -สุราใกล้ร.ร.ต้องมีกม.รองรับ
22 พ.ค. 2566

นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวพบร้านขายช่อดอกกัญชาอยู่ใกล้บริเวณโรงเรียน ว่า ตามประกาศ “สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565” มีข้อห้ามการจำหน่ายให้เด็ก เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา อยู่แล้ว แต่ในส่วนข้อห่วงกังวลของสังคมที่มีการขายใกล้โรงเรียนนั้น เนื่องจากการจะออกกฎหมายเพื่อห้ามจำหน่ายในสถานที่ใกล้กับโรงเรียน ต้องออกเป็นกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตามที่เคยอยู่ในการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ เนื่องจากในรัฐธรรมนูญ มาตรา 40 กำหนดไว้ว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ หากจะจำกัดเสรีภาพ ต้องออกเป็นกฎหมายมาบังคับ

นพ.ธงชัย กล่าวว่า ส่วนกรณีสุรา ที่มีการห้ามขายใกล้โรงเรียนนั้น เป็นการใช้ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีระดับเทียบเท่า พ.ร.บ. ไปบังคับใช้

“อย่างไรก็ตาม ในร้านจำหน่ายกัญชาที่อยู่ใกล้โรงเรียน จะถูกตรวจสอบและเข้มงวดในการส่งรายงาน และจะถูกพักใช้ใบอนุญาตและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เทศกิจของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ช่วยสอดส่องดูแล หากพบการกระทำผิดหรือที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งไปที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ เพื่อช่วยกันกำกับดูแลอย่างเข้มงวดต่อไป” นพ.ธงชัยกล่าว

อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ดำเนินการจัดทำแบบรายงานข้อมูลแหล่งที่มากัญชา การนำไปใช้ และ จำนวนที่เก็บไว้จำหน่าย ณ สถานประกอบการ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สแกนคิวอาร์โค้ด แบบรายงาน บันทึกข้อมูล พร้อมนำส่งต่อผู้อนุญาตในท้องที่แต่ละจังหวัด และสำหรับส่วนกลางเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผ่านทางอีเมล์ : indi2565@gmail.com ไปที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ

“ปัจจุบันมีสถานประกอบการจำหน่ายสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ยื่นขออนุญาตเพื่อจำหน่ายหรือแปรรูป ส่งออก ศึกษาวิจัย ทั้งเขตกรุงเทพฯ และอีก 76 จังหวัด ทั่วประเทศ กว่า 12,000 แห่ง โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ได้ยื่นคำขอจำนวนกว่า 2,000 แห่ง หลังจากที่เริ่มดำเนินการได้ 3 เดือน และให้ร้านค้าแต่ละแห่งได้เตรียมตัว พบว่ามีการส่งรายงานเพียง 100 แห่งเท่านั้น จึงต้องมีการเข้มงวดในการบังคับใช้กฏหมายต่อไป ดังนั้น เพื่อเป็นการตรวจสอบการใช้ช่อดอกกัญชาในเชิงพาณิชย์ กรมการแพทย์แผนไทยฯ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการจำหน่ายสมุนไพรกัญชาทั่วประเทศ จัดทำแบบรายงานข้อมูลแหล่งที่มากัญชา การนำไปจำหน่าย และจำนวนที่เก็บไว้จำหน่าย ณ สถานประกอบการ (ตามแบบ ภท.27- ภท.32) ตามช่องทางดังกล่าวทุกสิ้นเดือน” นพ.ธงชัยกล่าว

อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า หากสถานประกอบการจำหน่ายกัญชาใดไม่ให้ความร่วมมือ กรมการแพทย์แผนไทยฯ จะร่วมกับตำรวจ และหน่วยงานทางปกครอง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากสถานประกอบการจำหน่ายกัญชาใด ไม่ส่งรายงานข้อมูลตามแบบที่กำหนดจะถูกพักใช้ หรือ ถูกเพิกถอนใบอนุญาตจำหน่ายกัญชา หากถูกพักใช้ใบอนุญาตแล้ว ผู้ประกอบการยังไปจำหน่ายต่อ จะผิดกฎหมายอาญา โทษจำคุก และปรับ พร้อมถูกเพิกถอนใบอนุญาต แต่ถ้าต้องการขอใบอนุญาตใหม่ ต้องเกินระยะเวลาที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปแล้ว 2 ปี จึงสามารถขอใบอนุญาตประกอบการได้ใหม่

นพ.ธงชัย กล่าวต่อไปว่า กัญชาเหมือนสุรา และบุหรี่ ที่ต้องมีกฎหมายมาควบคุมโดยเฉพาะ จุดประสงค์หลักของกรมการแพทย์แผนไทยฯ คือ เพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ ขอเน้นย้ำถึงผู้ประกอบการจำหน่ายกัญชา และ ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในความดูแลของท่าน ตามประกาศ “สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565” ข้อ 3 (3),(4) กำหนดชัดในเรื่อง ห้าม จำหน่ายแก่เด็ก และ เยาวชน ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี รวมถึงนักเรียน นิสิต นักศึกษา ซึ่งการจำหน่ายหมายความรวมถึงการขาย จ่าย แจก หรือแลกเปลี่ยน การกำกับดูแลในประเด็นนี้เป็นไปได้ว่า เด็ก และ เยาวชนนำกัญชามาใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม อยู่ 2 กรณี

กรณีที่ 1 ได้รับการจำหน่าย จ่าย แจก ตามข้อนี้ กฎหมายสามารถเอาผิดกับผู้ที่จำหน่าย จ่าย แจกกัญชาให้เยาวชนได้ตามมาตรา 78 ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ ถ้าเป็นสถานประกอบการจำหน่ายกัญชา จำหน่ายให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จะถูกเพิกถอนใบอนุญาต และห้ามจำหน่ายสมุนไพรกัญชาอีกด้วย กรณีที่ 2 เด็ก และ เยาวชน ปลูกกัญชาเพื่อไว้ใช้เอง กรณีนี้ ผู้ปกครองที่ดูแลบุตรหลาน ต้องมีการควบคุมดูแล เช่นเดียวกับการห้ามสูบบุหรี่ หรือ ดื่มสุรา ผู้ปกครอง หรือผู้ใกล้ชิด จึงมีบทบาทที่ต้องเข้ามาเฝ้าระวัง และให้แนวทางที่ถูกต้องแก่เด็ก และ เยาวชน เพื่อป้องกันการใช้ในทางที่ผิด” นพ.ธงชัย กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...