ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
อึ้ง อย่างนี้ต้องห้ามพลาด ตักไม่อั้น 10 บาท ในยุคเศรษฐกิจปัจจุบันนี้!!
01 มิ.ย. 2566

พบสาวใหญ่ผลันชีวิตจากงานประจำโรงแรมหรูเมืองภูเก็ต มาเปิดร้านข้าวแกง ชื่อร้าน “มามี้”  แบบตักไม่อั้น ราคา10 บาท  

วันนี้ 01 มิ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบร้านข้าวแกงตักไม่อั้น ราคา  10 บาท ริมถนนแสงชูโต ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เปิดอยู่ติดรั้วกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พบคุณปานไพลิน  ไขศิลป์ (หรือคุณกระแต) สาวรุ่นใหญ่วัย 55 ปี ชาวกรุงเทพมหานครฯ ทำงานในโรงแรมดังเมืองภูเก็ต เป็นฝ่ายบุคคลากร ได้ผลันชีวิตเกษียณจากงานที่ทำ มาเปิดร้านข้าวแกง ชื่อร้านมามี้ ตักไม่อั้น ราคา  10 บาท เปิดมาได้ประมาณ 1 อาทิตย์ มีประชาชนเข้าไปอุดหนุนล้นหลามทุกวัน ร้านเปิดเวลา 08.00 น. ถึงเวลา 14.00 น. ร้านจะหยุดวันอาทิตย์ 

และในสถานการณ์เศรษฐกิจยุคปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าทุกคนดิ้นทุกวิถีทาง ประหยัดกันสุดๆ ทางเจ้าของร้าน “มามี้” ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงคิดช่วยแบ่งเบาปัญหานี้จึงมาเปิดร้านข้าวแกง ตักไม่อั้นราคา 10 บาท แห่งนี้ขึ้น และคนเมืองกาญจน์เมื่อเจออย่างนี้ใครไม่ลองก็จะไม่รู้ถึงรสชาดอาหารกว่า 20 เมนู มีความอร่อยขนาดไหนเชิญแวะไปอุดหนุน ไปชิมได้ ที่นี่มีทั้งอาหารคาว หวาน ไว้บริการลูกค้า 

คุณ ปานไพลิน  ไขศิลป์ (หรือคุณกระแต) สาวใหญ่เจ้าของร้าน กล่าวว่า ตนเองได้เกษียณจากงานมา จึงอยากหางานทำเพราะทำงานมาตลอด  หลานสาวได้ชวนมาเปิดร้านข้าวแกง ซึ่งตนเห็นว่าเมืองกาญจน์ยังไม่มีร้านข้าวแกงแบบนี้ ซึ้งเคยไปกินในกรุงเทพ เลยนำเอาไอเดียนี้มาทำ และเห็นว่าในยุคปัจจุบันนี้เศรษฐกิจฝืดเคือง รวมถึงตนเองชอบทานข้าวแกงมาตลอด จึงได้ตามรอยใน กรุงเทพฯ  มีหลานสาวอยู่ที่กาญจน์ ก็ได้เดินทางมาดูทำเลในจังหวัดกาญจนบุรี และยังไม่ค่อยเห็นร้านข้าวแกงแบบนี้ให้เห็น เมื่อได้สถานที่ตรงจุดนี้ แล้วจึงเปิดร้านข้าวแกงแบบ ตักไม่อั้น ราคา 10 บาท  อยากทำอาหารที่มีคุณภาพราคาไม่แพง ในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ จึงอยากให้ประชาชนที่ได้รับประทานอาหารในราคาย่อมเยาว์ และมีคุณภาพ หลังจากโดนโควิด กระหน่ำมาถ้วนหน้า....ปล่อยเสียงคุณปานไพลิน  ไขศิลป์ เจ้าของร้านกล่าวทิ้งท้าย...........


ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...