น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. แถลงชี้แจงปัญหาขาดแคลนบุคลากรในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร ว่า เบื้องต้น นายชัชชาติ สิทธพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องข้อร้องเรียนพยาบาลทำงานเกินกว่าชั่วโมงกำหนด โดยเข้มงวดไม่ให้ทำงานนานเกิน 2 กะ หรือ 16 ชั่วโมง ตามที่สำนักการแพทย์ ที่กำหนด เพราะอาจกระทบต่อสมาธิ และการรักษาประชาชน ซึ่งต้องดำเนินการแก้ไขเร่งด่วน ไม่ให้เกิดการทำงานรูปแบบเช่นนี้อีก
จากข้อมูลการร้องเรียนคาดการณ์ว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะส่งมาจากโซนกรุงเทพฯ โซนตะวันออก เนื่องด้วยจำนวนประชากรที่มีจำนวนมาก จากการตรวจสอบเทียบชื่อการเข้ากะและจำนวนพยาบาลพบมีมูลแห่งความจริง อย่างไรก็ตาม ในโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล จะมีระบบสแกนใบหน้าและข้อมูลของพยาบาล โรงพยาบาลกลาง มีระบบเช็กข้อมูลและระบบเวรกลาง ซึ่งจากนี้ต้องนำระบบดังกล่าวมาปรับใช้ในทุกโรงพยาบาล
สำหรับสาเหตุที่เกิดขึ้น เป็นเพราะอัตราของพยาบาลและคนที่ทำงานในโรงพยาบาล กทม.ตรึงตัว มีการจ้างพยาบาลในเวลาเสริมจำนวนมาก จึงไม่ปฏิเสธเรื่องอัตรากำลัง ซึ่ง กทม.พยายามบรรจุพยาบาลเพิ่มในทุกโรงพยาบาลภายในเดือน ส.ค.นี้ ทั้งนี้จะปรับระบบบริหารจัดการใหม่ในทุกโรงพยาบาลด้วย พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น ระบบแจ้งเตือนการทำงานเกิน 2 กะ
"ยอมรับว่าเรื่องนี้กระทบต่อประชาชน จึงต้องบริหารจัดการจำนวนพยาบาลให้เพียงพอ ไม่ให้เกิดการหยุดชะงัก จากนี้ต้องคุยกับบุคลากรถึงขั้นตอนการทำงาน การอยู่เวร สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยบังคับ และการบังคับให้อยู่ต่อ ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น" รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว