วันที่ 10 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ หมู่บ้านทุ่งดินดำ (ซอย.หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำมงจืด เขื่อนกระเสียว) หมู่.17 ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี หลังจากมีรายงานว่าพบก้อนหินขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายวาฬ โผล่หลังน้ำในเขื่อนกระเสียวลดลง ก้อนหินดังกล่าวต้องเดินเท้าลงไปห่างจากถนนประมาณ100เมตร มีลักษณะคล้ายวาฬ ขนาดประมาณ3เมตร
นายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอด่านช้าง เปิดเผยว่า บริเวณดังกล่าว ช่วงน้ำในเขื่อนกระเสียวลดลง จะมีพื้นที่เป็นลานกว้าง และช่วงโควิด-19 เขื่อนกระเสียวปิดรับนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเลยหันมาเที่ยวจุดดังกล่าวแทน เพราะอยู่ไม่ไกลกันหนัก และมีบรรยากาศที่ดี นับตั้งแต่นั้นมาช่วงน้ำลดก็เลยมักจะมีนักท่องเที่ยวพาครอบครัวมา พักผ่อน ชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี้เป็นจำนวนมาก
ส่วนหินคล้ายวาฬ คนที่พบเจอคนแรกคือประมงอำเภอด่านช้าง ซึ่งบ้านพักอยู่บริเวณแถวนั้น ได้พาลูกเดินไปเล่นบริเวณดังกล่าว แล้วก็ไปพบเจอว่าก้อนหินก้อนนี้มีลักษณะแปลกกว่าหินก้อนอื่น มีลักษณะคล้ายวาฬเลยได้นำเรื่องราวมารายงานตน
ในตอนนี้ยังไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ แต่แนวคิดว่าจะโปรโมทเป็นแหล่งเช็คอินถ่ายรูป และพักผ่อนยามเย็นให้กับนักท่องเที่ยวส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น เพราะนอกจากจะมีหินคล้ายวาฬแล้ว ยังมีหินลักษณะคล้ายหัวช้าง และสัตว์อื่นๆอีก อยู่ที่จินตการของแต่ละคน
ทางด้าน นางพวงเพ็ญ อ้อมทอง ชาวบ้านที่อยู่ใกล้หินวาฬ เปิดเผยว่า
หินก้อนนี้อยู่มานานแล้ว เมื่อ3ปีที่ผ่านน้ำในเขื่อนกระเสียวมีปริมาณมาก ก็จะไม่เห็นหินก้อนนี้ โดยที่ผ่านมาก็ไม่ได้สังเกตุว่าเป็นหินคล้ายวาฬเพราะปกติน้ำท่วมครึ่งตัวหิน จนหลังจากมีคนนำรูปไปลงโซเซียลว่าหินก้อนนี้คล้ายวาฬ ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถามอยู่เรื่อยๆ เพื่อลงไปถ่ายรูปหินวาฬ
สันติ ชูเชิด สุพรรณฯ