นายกเทศมนตรีนครแม่สอด สั่งย้าย 3 เจ้าหน้าที่ห้องทะเบียนราษฎร์ เซ่นออกบัตร 10 ปี ให้ชาวเมียนมา 700 ราย มีกองกำลังต่อต้านรัฐบาลเมียนมาด้วย แต่ระดับมีอำนาจตัดสินใจยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

         เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ในเทศบาลนครแม่แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า นายประเสริฐ ปวงละคร นายกเทศมนตรีนครแม่สอด มีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ห้องทะเบียนราษฎร์เทศบาลนครแม่สอด 3 คน โดยกระจายไปอยู่ส่วนการงานอื่นๆ หลังจากมีข่าวฉาวโฉ่ เรื่องออกบัตร 10 ปีให้ชาวเมียนมา ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มชาวเมียนมาที่ลี้ภัยในแม่สอด และกลุ่มกองกำลังพีดีเอฟ.หรือกองกำลังปกป้องประชาชนจากฝั่งเมียนมา ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในแม่สอด รวมทั้งชาวเมียนมาทั่วไป ซึ่งมีข่าวสะพัดว่า กระบวนการออกบัตร 10 ปี ให้ชาวเมียนมาทำมานานถึง 3 เดือนแล้ว และออกบัตร 10 ปี ไป 700 ราย เฉลี่ยวันละ 15-20 ราย

          จนคนไทยในพื้นที่ที่ไปทำบัตรประชาชน ต้องไปรอคิวการทำบัตรประชาชน บางวันต้องไปใช้บริการที่ว่าการอำเภอแม่สอด เพราะที่เทศบาลเต็มไปด้วยชาวเมียนมาที่ไปทำบัตร 10 ปี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบยังพบว่า มีการเรียกรับสินบนค่าทำบัตร หัวละ 40,000-100,000 บาท เพื่อแลกกับบัตร 10 ปี รวมรายได้ประมาณ 28-30 ล้านบาท

            แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.แม่สอด แจ้งว่า เรื่องการทำบัตร 10 ปี มีคนร้องเรียนมากทั้งจากประชาชน และเจ้าหน้าที่ ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ไปยัง นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ทำให้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักทะเบียนกลาง ไปตรวจสอบที่ห้องทะเบียนราษฎร์เทศบาลนครแม่สอด และไปยังบ้านที่นำคนต่างด้าว เข้าทะเบียนบ้าน บางครัวเรือน พบว่า มีชื่อคนต่างด้าวเข้าไปอยู่ในห้องทะเบียนราษฎร์นับ 100 คน

            รายงานข่าวแจ้งว่า มีข้าราชการห้องทะเบียนบางราย เป็นข้าราชการเคยถูกตั้งกรรมการสอบสวน จากทางจังหวัดตาก และทางฝ่ายปกครองแม่สอด ร่วมกันสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีปลัดคนหนึ่ง แต่เรื่องก็หายเงียบไป ขณะที่คนที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวนยังคงอยู่ที่เดิมไม่ได้รับโทษอะไร และยังกลับมาทำแบบเดิมอีก นอกจากนี้ การย้ายพนักงาน ลูกจ้างบางคนเป็นเพียงคนระดับไม่มีอำนาจในการออกบัตร 10 ปี เป็นเพียงแค่รับเอกสารเท่านั้น

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน นายสมชัยฐ์ กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าฯตาก ได้ไปราชการที่เทศบาลนครแม่สอด หลังจากเสร็จภารกิจแล้ว ได้เข้าไปที่ห้องทะเบียน พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ และเปรยว่า ใครทำอะไรที่ผิด ต้องรับผิดชอบตัวเอง