กาญจนบุรี - ผวจ.กาญจน์ สั่งตรวจสอบโรงแรมดัง หลังลูกค้าเข้าพักถูกฉกทรัพย์สูญเกือบล้านบาท ส่วน ผจก.เผยหาก ตำรวจพิสูจน์พบโรงแรมผิด พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย ทางโรงแรมทำการปิดช่องลับเรียบร้อยพร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม
คืบหน้าจากกรณีสองครอบครัวเข้าพักโรงแรมดังเมืองกาญจน์ แล้วถูกฉกทรัพย์ จากการพักไปนับล้านบาท และเข้าแจ้งความแล้วที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ยังไม่คืบหน้า เมื่อมีการมาตรวจสอบที่เกิดเหตุต้องช็อคเพราะมีช่องลับที่เปิดจากด้านนอกห้องได้โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ผู้เสียหายทราบ เรื่องทางคดีผ่านมาสามเดือนแล้ว และได้สอบถามไปยังโรงแรมดังกล่าวแจ้งว่ามีไว้เป็นช่องเมียน้อยหนีเมียหลวง โดยความคืบหน้าเจ้าหน้าที่หลายหน่วยเข้าตรวจสอบห้องดังกล่าวพบว่าทางโรงแรมได้ทำการนำแผ่นเหล็กไปปิดตายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมด้วยเช่นกันทางผู้จัดการแจ้งว่าทางโรงแรมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมด รวมถึงนำพนักงานทั้งหมดไปทำประวัติทั้งหมด ส่วนเรื่องทรัพย์สินทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามอยู่ ทางโรงแรมไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นต้องขอโทษกับทางลูกค้าทั้ง 2 ราย ด้วย
ล่าสุดวันนี้ 19 มิ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้นายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายเอกศักดิ์ เศรษฐพิศาล จ่าจังหวัดกาญจนบุรี นายอนุสรณ์ สง่าแสง ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองกาญจนบุรี นางนันทกร บุญสร้อย ปลัดอำเภอชำนาญการ อำเภอเมืองกาญจนบุรี ร่วมกับ ว่าที่ พันตำรวจตรี ธนภัทร ทองไพบูลย์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 กาญจนบุรี กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองปากแพรก เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบโรงแรมที่เกิดเหตุ โดยมีนายณัฐนนท์ กิติพงศ์สมาน ผู้จัดการโรงแรม ให้การต้อนรับพร้อมนำพาคณะเจ้าหน้าที่เดินสำรวจห้องพักที่เกิดเหตุ คือห้อง วีไอพี 101 และ วีไอพี 102 สำหรับโรงแรมดังกล่าวมีห้องพักทั้งหมด 38 ห้อง จากการตรวจสอบปรากฏว่าจุดที่เป็นกระจกหน้าต่างของโรงแรมด้านนอกนั้นทางโรงแรมได้เชื่อมกลอนหน้าต่างติดกันแล้ว จึงไม่สามารถเปิดดูได้ และนอกจากนี้ทางโรงแรมยังได้นำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งเอาไว้หลังห้องพักอีกด้วย
ทั้งนี้นายณัฐนนท์ กิติพงศ์สมาน ผู้จัดการโรงแรม ให้ข้อมูลเบื้องต้นกับนายปกรณ์ กรรณวัลลี ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี และนายเอกศักดิ์ เศรษฐพิศาล จ่าจังหวัดกาญจนบุรี ว่า โรงแรมแห่งนี้เราซื้อมาจากเจ้าของเดิมได้ประมาณ 4 ปี ส่วนรูปแบบของโรงแรมที่เราซื้อมานั้นมันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนกรณีที่เป็นข่าวว่าช่อหน้าต่างที่มีไว้สำหรับหลบหนีเราได้ข้อมูลมาจากพนักงานของโรงแรมชุดแรกในช่วงที่เราซื้อมาและเราก็เข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด ถามว่าช่องหน้าต่างดังกล่าวตั้งแต่เราซื้อโรงแรมมานั้นเราเคยใช้งานหรือไม่นั้นตอบได้เลยว่าเราไม่เคยใช้งานและไม่เคยมีปัญหาอะไรมาก่อน ถามว่าแล้วมีเอาไว้ทำอะไร เรามีเอาไว้ใช้ในช่วงเวลาที่พนักงานเข้ามาทำความสะอาด เพราะภายในห้องพักมีพัดลมระบายอากาศเพียงตัวเดียว เมื่อเปิดหน้าต่างก็จะสามารถระบายอากาศได้ดี ซึ่งห้องพักทุกห้องจะมีหน้าต่างเหมือนกันทุกห้อง แต่ก็ต้องยอมรับว่า เราไม่ได้แจ้งให้ลูกที่เข้ามาพักทราบว่ามีหน้าต่างอยู่ และจากการได้ตรวจสอบข้อมูลของหน้าต่างทางอินเตอร์เน็ต ก็ทราบว่าหน้าต่างดังกล่าวมีเอาไว้ในยามฉุกเฉิน เช่นอาจจะมีคนที่มาพักฆ่าตัวตาย หรือเกิดการทะเลาะวิวาทกัน หรือในบางครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องการมาจับคนร้ายที่หลบหนีมาพักภายในห้อง ซึ่งก็สามารถช่วยได้ แต่อย่างไรก็ตามตั้งแต่เราซื้อโรงแรมมาได้ประมาณ 4 ปี หน้าต่างดังกล่าวไม่เคยใช้งานมาก่อนเลย แต่หลังจากที่เป็นข่าวออกไปทางโรงแรมได้แก้ไขด้วยการเชื่อมเพื่อปิดล็อกหน้าต่างด้านนอกเพื่อไม่ให้สามารถเปิดปิดได้ รวมทั้งนำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งและติดไฟสว่างเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีผู้เสียหายไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เรื่องนี้ทางโรงแรมจะรับผิดชอบอย่างไร นายณัฐนนท์ กิติพงศ์สมาน ตอบว่าเรื่องนี้ทางเราให้ความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการนำพนักงานโรงแรมไปตรวจสอบหรือเจ้าหน้าที่ต้องการเข้ามาตรวจสอบภายในโรงแรม ทุกอย่างทางเรายินดีที่จะให้ความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง ส่วนเรื่องความเสียหายนั้น ทางโรงแรมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จเสียก่อน หากผลตรวจสอบออกมาว่าทางโรงแรมต้องรับผิดชอบ ทางโรงแรมก็ยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหาย
ด้านนายเอกศักดิ์ เศรษฐพิศาล จ่าจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าช่องหน้าต่างลับที่เป็นข่าวน่าจะมีทุกห้องตามที่เป็นข่าวจริง ซึ่งเราจะขอตรวจสอบแบบแปลนของโครงสร้างอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพราะหากมีช่องดังกล่าวจริง ซึ่งทางโรงแรมเองไม่ได้แจ้งให้ผู้เข้าพักทราบก่อน และช่องดังกล่าวนั้นสามารถเปิดจากด้านนอกเข้ามาภายในห้องพักได้ ซึ่งมันขัดกับ พรบ.โรงแรมและกฎของกระทรวงที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความปลอดภัยของแขกผู้เข้าพัก ตรงนี้ทางจังหวัดขอตรวจสอบแบบแปลนของโรงแรมก่อนว่าการก่อสร้างโรงแรมตรงตามแบบหรือไม่ ถ้าการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบแปลน ก็จะต้องถูกดำเนินการตาม พรบ.ควบคุมอาคาร ก็จะให้พนักงานเจ้าหน้าที่ พรบ.ควบคุมอาคารสั่งให้แก้ไขให้ตรงตามแบบ ส่วนในเรื่องของการเปรียบเทียบหรือการดำเนินคดีก็จะเป็นหน้าที่ของพนักงานท้องถิ่น ส่วนเรื่องของ พรบ.โรงแรม ทางเราจะสั่งการให้ทางโรงแรมทำการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด หากไม่แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด ก็จะสั่งให้หยุดดำเนินกิจการต่อไป
ส่วน นายณัฐนนท์ กิติพงศ์สมาน ผู้จัดการโรงแรม ได้กล่าวว่าตอนนี้ได้ดำเนินการตามที่ทางหน่วยงานเข้าไปตรวสอบทุกกรณี
สำหรับนายเอษณะ หรือปอ แก่นแก้ว อายุ 43 ปี ชาว จังหวัดสงขลา พร้อมกับแฟน ฝากทางเจ้าหน้าที่ช่วยติดตามคนร้ายครั้งนี้ด่วนด้วย
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ - รายงาน