พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ เรียกร้องถึง รัฐบาล และ คสช. โดยระบุ ตามที่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นับตั้งแต่การรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา คสช. ได้ใช้อำนาจในการออกประกาศ คสช. และคำสั่งของหัวหน้า คสช. อันมีลักษณะเป็นการจำกัดสิทธิ เสรีภาพของประชาชน เสรีภาพทางวิชาการ และสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง แม้เมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 แล้ว การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวก็มิได้ผ่อนคลายลงแต่อย่างใด กลับมีกระบวนการที่ซับซ้อนเพิ่มขึ้น โดยมีการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการจำกัดสิทธิ เสรีภาพของประชาชน และฝ่ายต่างๆ อีกหลายครั้ง การใช้ประกาศและคำสั่งของ คสช. และหัวหน้า คสช. ด้วยการจับกุมดำเนินคดีกับบุคคลที่มีความคิดเห็นต่างทางการเมือง และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และ คสช. ทั้งที่เป็นสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ทั้งนี้ เพื่อปิดปากประชาชนในการแสดงความคิดเห็น
พรรคเพื่อไทย เห็นว่า รัฐบาล และ คสช. มีพันธกรณีตามกติการะหว่างประเทศและตามรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องให้ความคุ้มครองและเคารพซึ่งเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน และต้องไม่กระทำการใดอันเป็นการละเมิดเสรีภาพดังกล่าว เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และ คสช. เป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ สร้างความเชื่อมั่นของต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยด้วย รัฐบาลและ คสช. ต้องยุติการกระทำใดอันเป็นการละเมิดสิทธิ เสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ของฝ่ายวิชาการ และสื่อมวลชน ที่ถูกละเมิดอย่างต่อเนื่อง และหลากหลายรูปแบบ การดำเนินคดีกับบุคคลต้องคำนึงถึงเจตนาในทางอาญา สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิของผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยการดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ และเป็นไปตามหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด