เกษตรกรชาวสวนทุเรียน บ้านทะเลหอย ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ที่ได้ยื่นขอขึ้นทะเบียน จีไอ (GI) ทุเรียนทะเลหอย นำผลทุเรียน ที่สุกแล้ว ไม่จำกัดขนาดและรูปทรง มาให้เจ้าหน้าที่ เกษตรจังหวัด เจ้าหน้าที่พาณิชย์ จังหวัดกระบี่ ตรวจคุณภาพ ก่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตในปีนี้ ทุเรียนทะเลหอย เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พื้นที่ มีความอุดมสมบูรณ์ มีสภาพอากาศและแหล่งน้ำที่ดี มีธาตุอาหารหลักที่สำคัญ และไม่ใช้สารเคมีในการเพาะปลูก ส่งผลให้ผลผลิตมีคุณภาพดีและมีลักษณะโดดเด่นแตกต่างจากทุเรียนที่ปลูกในพื้นที่อื่น ด้วยรสชาตินุ่มละมุน หวาน มัน เข้มข้น คล้ายทุเรียนผสมครีมหรือนมสด เนื้อสัมผัสแห้ง เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ต้องเพิ่มผลผลิตเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาด ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่า 70 ล้านบาทต่อปี
นายสมเกียรติ โกฎิกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มไม้ผลบ้านทะเลหอย เปิดเผยว่า ทุเรียนทะเลหอย พันธ์หมอนทอง และ ชะนี ได้ชื่อว่าเป็นทุเรียนสองคาบสมุทร ซึ่งได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉลียงใต้ และตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ สภาพอากาศดี ร้อนซื้นฝนตกต่อเนื่อง เหมาะสม ต่อการปลูกทุเรียน นอกจากนี้ สภาพดินบ้านทะเลหอย มีความอุดมสมบูรณ์ มีเปลือกหอยปะปนอยู่มีแร่ธาตุโดยเฉพาะเศษเปลือกหอย ทำให้ทุเรียนที่นี่มีความอร่อย หวานมัน กรอบ มีคุณภาพที่ดี ผลทุเรียนมีลักษณะของหนามทุเรียนเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่น หนามจะเป็นสีแดงร่องเขียว หนามแหลมคมปลายหนามเป็นสีแดงเข้ม ส่วนเนื้อทุเรียน หวาน มัน เข้มข้น คล้ายทุเรียนผสมครีมหรือนมสด เนื้อสัมผัสแห้ง เม็ดเป็นสีแดง ลีบ เชื่อว่าหลังจากได้ขึ้นทะเบียนจีไอแล้ว จะสร้างรายได้แก่เกษตรเป็นอย่างดี
นางวิภารัตน์ ภูเก้าล้วน พาณิชย์จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ คุณภาพ รสชาติของทุเรียน ว่า หวาน มัน กรอบ เม็ดลีบ ตรงกับ ที่ยื่นขอขึ้นทะเบียนไว้หรือไม่ และ ตรวจแปลงปลูกทุเรียนของเกษตรกร ที่ขอขึ้นทะเบียนไว้รวม จำนวน 70 ราย ที่ผ่านมา ได้ส่งเสริมด้านการตลาด โดยกาดประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ พร้อม มอบกล่องพัสดุขนาด บรรจุน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ให้เกษตรกรใช้ส่งผลิตถึงผู้บริโภค เกษตรกรสามารถรับได้ที่สำนักงานเกษตกรอำเภอปลายพระยา คาดว่าผลผลิตทุกเรียนบ้านทะเลหอยปีนี้ ออกประมาณ 1,300 ตัน มูลค่า กว่า 1.3 พันล้านบาท
กระบี่