ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
วิโรจน์ งง ตรวจสภาพรถทิพย์มีด้วยขนส่งตรวจหน่อย
28 มิ.ย. 2566

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากขบวนการตรวจสภาพรถทิพย์ จ.สกลนคร นำเอกสารมาร้องเรียนให้ตรวจสอบ ว่า ขอเรียกร้องไปยังอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากพื้นที่นี้มีการร้องเรียนหลายครั้งเรื่องกระบวนการตรวจสภาพรถทิพย์และเป็นระยะเวลานานแล้ว

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่เราไปออกรถป้ายแดง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ทางดีลเลอร์รถจะบอกว่า เป็นค่าทะเบียนหรือค่าดำเนินการออกรถใหม่ แล้วคนที่ออกรถป้ายแดงก็จะรู้สึกดีใจ ถือเป็นความเฮงๆ เขาเรียกเท่าไรก็เอาเงินไปจ่ายเท่านั้น แต่ปรากฎว่า บิลค่าใช้จ่ายที่ออกมา มีค่าใช้จ่ายไม่เท่าไร เช่น ภาษีรถยนต์มีค่าธรรมเนียมในการออกรถใหม่แค่ 55 บาท แต่ปรากฏว่าเก็บจริงไปหลายพันบาท เลยตั้งข้อสงสัยว่าเก็บไปให้ใคร เอาไปให้ช่างตรวจสภาพรถและเจ้าหน้าที่บางคนหรือไม่ เรื่องนี้พัวพันกับใครบ้าง มองว่าไม่ใช่ค่าบริการธรรมดา

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า มิหนำซ้ำเวลาที่ผ่อนหมดแล้ว จะต้องมีการโอนปิดบัญชี ทำให้ต้องมีการโอนชื่อจากไฟแนนซ์มาเป็นเจ้าของรถ ซึ่งตามจริงต้องจ่าย 105 บาท แต่ปรากฏว่าหลายคนจ่ายไปหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับประเภทรถว่าหรูขนาดไหน เกรดอะไร หากเป็นรถหรูจะจ่ายแพง เมื่อสักครู่ตนได้ตรวจสอบกับกลุ่มไรเดอร์ที่มาร้องเรียนกับพรรคก้าวไกล พบว่าเป็นเรื่องจริง ผู้เสียหายเข้าใจว่าส่วนหนึ่งเป็นค่าบริการที่ให้ตัวแทนไปดำเนินการแทนหลายคนบอกว่าเป็นเรื่องพัวพันที่ต้องนำเงินไปให้เจ้าหน้าที่ทะเบียนบางคนด้วย หรือแม้กระทั่งช่างตรวจสภาพรถ

นายวิโรจน์ตั้งคำถามว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ กี่สิบปีแล้ว ขบวนการนี้ใหญ่ขนาดไหนที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน รวมถึงรถป้ายแดงควรมีอีกหรือไม่ เนื่องจากหากปัจจุบันพัฒนาเป็นระบบออนไลน์แล้ว ควรจะเป็นรถป้ายดำโดยทันที

"สมัยก่อนเรามีรถป้ายแดงเพื่อรอให้เดินงานธุรการ จึงให้สวมป้ายแดงไปก่อน แต่ในปัจจุบันไม่จำเป็นแล้ว ผมคิดว่าต้องทบทวนกฎระเบียบ ว่ารถที่เพิ่งออกจากโรงงาน จำเป็นต้องตรวจสภาพเพื่ออะไร ไม่จำเป็นต้องตรวจแล้วถูกหรือไม่ ให้ดีลเลอร์หรือศูนย์ขายรถคีย์เข้าระบบไปเลยว่าเลขเครื่องเลขอะไร ตัวถังเป็นเลขอะไร กฎหมายตัวนี้ออกมาเพื่ออะไร ไม่มีใครที่อยากขับรถป้ายแดงไปตรวจตามขนส่งอยู่แล้ว หรือขับรถลูกค้าไปตรวจนอกศูนย์รถ"

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่ากลัวคือรถสวมทะเบียน รถจดประกอบ และรถที่ไปซื้อซาก ที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วเอาเลขคลัสซีไปสวมรอย กับรถที่โจรกรรมมา ซึ่งตามระเบียบการซื้อรถมือสอง ต้องมีการตรวจสภาพเหมือนกัน แล้วมีระเบียบที่ให้เจ้าหน้าที่หรือช่างตรวจสภาพ มาตรวจนอกสถานที่ได้ แต่ข้อเท็จจริงที่สอบถามมาเบื้องต้น คือไม่ได้มาตรวจจริง เอาเอกสารพร้อมผลประโยชน์บางอย่างแล้วให้เซ็นชื่อ เหมือนกับตรวจแล้ว เรียกว่าตรวจทิพย์

"แม้กระทั่งมาถ่ายรูปกับรถ ช่างยังไม่มาถ่ายเลย เอาเอกสารไปเซ็น พูดง่ายๆ คือขายลายเซ็น ผลกระทบจะเกิดดขึ้นกับประชาชนอย่างไร ทำไมประเทศที่เขาพัฒนาแล้วถึงไม่มีการโจรกรรมรถ เพราะเขารู้ว่ารถที่โจรกรรมมาจดทะเบียนไม่ได้ แต่หากยังมีการตรวจสภาพรถทิพย์อยู่ ก็จะเจอกับรถสวมทะเบียน"

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า คนทั่วไปก็เดือดร้อน เนื่องจากรถยนต์ รถจักรยานยนต์ถูกขโมย ตราบใดที่การจดทะเบียนรถมีความหละหลวม ปัญหารถหายก็ยังเกิดขึ้น การโจรกรรมรถก็จะเบ่งบาน ตนจะเข้าไปตรวจสอบทั้งหมด

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ฝากไปยังอธิบดีกรมการขนส่งทางบกให้ช่วยขันน็อต และหวังว่าจะได้รับคำตอบ เนื่องจากถูกกลั่นแกล้งมาเป็นปีแล้ว และหากยังไม่เชื่อ ตนจะเปิดไลน์ให้ดูว่ากรมการขนส่งทางบกพูดคุยอะไรกับผู้เสียหายบ้าง ตนเห็นแล้วตกใจมาก เพราะการตรวจต้องพาช่างออกไปตรวจ ไม่ใช่พาคนเข้ามาให้เซ็นชื่อ มองว่าเป็นการรีดไถประชาชน โดยที่ประชาชนไม่รู้เรื่อง

เมื่อถามว่าช่างที่ตรวจสภาพรถเป็นช่างเอกชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐ นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลว่าเป็นช่างตรวจสภาพของรัฐบางคน ซึ่งยังเหมารวมไม่ได้ จากที่ตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่บางคนมีเครื่องบินเล็กเป็นของตัวเอง จึงตั้งข้อสังเกตว่าช่างตรวจสภาพจะมีเครื่องบินเล็กของตัวเองได้อย่างไร มีอพาร์ตเม้นต์ มีรถยนต์หรู โอ้ มีเงินเดือน 30,000-40,000 บาท ไม่น่าจะมีเครื่องบินเล็กได้ แปลกนะ มีอพาร์ตเม้นเช่า 3-4 ห้อง ควรจะเข้าไปตรวจสอบว่าท่านทำอะไรถึงรวยขนาดนี้

เมื่อถามว่าคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใกล้จะจบลงแล้ว หลังปิดตัวจะมีการสานต่องานอย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการหารือกัน ถึงการร่างนโยบายเพื่อแถลงต่อสภา จะได้เป็นเข็มทิศนำทางในการจัดการกับส่วยและคอรัปชันให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่เห็นตรงกันคือการนำเทคโนโลยีมาใช้ และเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...