ผู้ว่าเมืองชลฯ เข้มนำทีมตรวจปัญหาขบวนการเช่าที่วัดหลอกจำหน่ายวัตถุมงคลนักท่องเที่ยวจีน
เวลา 14.00 น.วันนี้ (7 ก.ค.) นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบที่วัดเขาชีจรรย์ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังพบว่าที่ผ่านมามีปัญหาที่มีกลุ่มบุคคลได้มาขอเช่าพื้นที่ตามวัดวาอารามและสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ เพื่อนำสินค้าจำพวกพระเครื่อง และเครื่องประดับ หลอกจำหน่ายให้กับกลุ่มทัวร์ชาวจีนในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง จนก่อให้เกิดความเสื่อมเสียด้านภาพลักษณ์ทางพุทธศาสนา และการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าที่วัดดังกล่าวซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมแก๊งค์ชาวจีนจำนวน 12 ราย ที่รวมตัวกันมาเช่าพื้นที่วัดประกอบธุรกิจหลอกจำหน่ายวัตถุมงคลให้แก่นัก ท่องเที่ยวชาติเดียวกันในราคาแพงเกินจริงมาก ซึ่งทางเจ้า หน้าที่ได้นำตัวส่งดำเนินคดีแจ้งข้อหา “บุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยมีของกลางเป็นพระเครื่องเลี่ยมทองไมครอน อาทิ พระสมเด็จ พระปิดตา หลวงพ่อโสธร พระแก้วมรกต กว่า 200 องค์
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่ารู้สึกมีความเป็นห่วงจึงได้เดินทางมาตรวจ สอบด้วยตนเองเพื่อดูว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีการควบคุมดูแลกันอย่างไร ซึ่งหลังตรวจดูก็ไม่พบว่ามีการกระทำผิดหรือกลุ่มคนเหล่านี้อีก แต่อาจจะมีตู้จำหน่ายสินค้าและพระพุทธรูปในหลายลักษณะตามปางค์ต่างๆตั้งวางไว้ให้ผู้คนมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลเท่านั้น
ขณะที่จากการสอบถามข้อมูลของปัญหาทราบว่าในพื้นที่จังหวัดชลบุรีจะมี 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีราชา อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ ที่มีขบวนการกลุ่มแก๊งค์ดังกล่าวลักลอบเข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายการหลอกลวงต้มตุ๋นมาตั้งแต่ครั้งก่อนหน้าสถาน การณ์โควิด-19 แต่เมื่อสถานการณ์การท่องเที่ยวดีขึ้นในปัจจุบันและนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกลับมา ปัญหาที่ส่งผลกระทบและเคยเป็นบทเรียนในการสร้างปัญหาก็ต้องมีการควบคุมให้อยู่ในกรอบ ด้วยปัญหาเหล่านี้ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยและการท่องเที่ยวเสียหาย
ทั้งนี้พื้นที่ที่พบปัญหามากที่สุดคือพื้นที่อำเภอบางละมุง ที่มีการกระทำเข้าข่ายในลักษณะต้องห้ามตามวัดต่างๆจำนวนกว่า 20 แห่ง จึงได้กำชับให้ทางหน่วยงานดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งทางด้านการตรวจคนเข้าเมือง ด้านศาสนา รวมไปถึงการคุ้มครองผู้บริโภคด้วย...