ที่อำเภอวังยาง จังหวัดนครพนม นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายมนตรี จารุธำรง นายอำเภอวังยาง เกษตรอำเภอ ปศุสัตว์อำเภอ สัสดีอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ ท้องถิ่นอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อส.และประชาชนในพื้นที่ร่วมกันทำกิจกรรมลงแขกดำนา ณ แปลงนาของนางดาวรุณี แก้ววังไชย หมู่ 1 ตำบลวังยาง อำเภอวังยาง บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ เนื่องจากปัจจุบันสามีของเกษตรกรรายนี้ มีอาการป่วยด้วยโรคไต เบาหวาน และความดันโลหิตสูง เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม ทำให้ไม่มีแรงงานช่วยดำนา เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ขาดแคลนแรงงาน อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้ชาวนาในพื้นที่หันมาทำนาดำเพิ่มผลผลิต เป็นการช่วยเหลือสนับสนุน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น Change for good และขยายผลไปสู่การดำเนินการช่วยเหลือดูแลซึ่งและกันของคนในชุมชน ส่งเสริมความรักความสามัคคี ทั้งเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวิถีชีวิตพื้นบ้าน และสืบสานวัฒนธรรมไทย ในสมัยอดีตที่นับวันจะเลือนหายไป ให้กลับมาคงอยู่คู่ชุมชน
นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ประเพณีการลงแขกดำนา นับวันจะหาดูได้ยาก เพราะปัจจุบันชาวนาส่วนใหญ่จะทำนานาหว่าน และมีการนำเอาเทคโนโลยีและเครื่องจักรกลต่าง ๆ มาช่วยในกระบวนการผลิต ซึ่งจากสถิติการเก็บข้อมูลวิจัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปรียบเทียบการทำนาแบบต่างๆ พบว่า การทำนาดำให้ผลผลิตมากที่สุด รองลงมาคือนาหยอด ส่วนนาหว่านให้ผลผลิตน้อยที่สุด เพราะต้นข้าวขึ้นไม่เป็นระเบียบทำให้บริหารจัดการแปลงนาได้ยาก ต้น รวง และเมล็ดข้าวจึงไม่สม่ำเสมอ เพราะต้องแย่งอาหารและแข่งกันโต สุดท้ายกลายเป็นชาวนาได้ข้าวคุณภาพไม่สม่ำเสมอ ขณะเดียวกันการทำนาดำก็ต้องใช้ต้นทุนในการผลิตที่สูง เพราะมีต้นทุนในเรื่องของแรงงานที่จ้างมาดำในแต่ละวัน ในสมัยอดีตบรรพบุรุษจะใช้วิธีลงแขก ไม่ว่าจะเป็นดำนา เกี่ยวข้าว หรือตีข้าว ถือเป็นประเพณีไทยที่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เป็นการสร้างความรักความสามัคคีของคนภายในหมู่บ้าน