นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกเตรียมยกระดับเทคโนโลยีใบอนุญาตขับรถแบบพลาสติกหรือ Smart card ตามมาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมความปลอดภัย ป้องกันการปลอมแปลงด้วยระบบเทคโนโลยีทันสมัย ด้วยแถบข้อมูลแม่เหล็กและเพิ่มเทคโนโลยี QR Code จัดเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ รองรับการพัฒนา Application เพื่อความสะดวกในการอ่านข้อมูลและนำมาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยทางถนนในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ระยะแรกของการเตรียมปรับรูปแบบใบอนุญาตขับรถสู่มาตรฐานสากล กรมการขนส่งทางบกกำหนดยกเลิกการออกใบอนุญาตขับรถรูปแบบกระดาษ ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2560 เป็นต้นไป โดยประชาชนจะได้รับใบอนุญาตขับรถ Smart card รูปแบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 100 บาท ที่เป็นแบบสมัครใจตามเดิม เนื่องจากเป็นการดำเนินการโดยกรมการขนส่งทางบกส่งผลให้ประชาชนไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มนอกเหนือจากอัตราค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตขับรถตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเท่านั้น ดังนั้น กรณีขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราว จากอัตราเดิม คือ 305 บาท จะเสียเฉพาะค่าธรรมเนียมและค่าคำขอรวม 205 บาท กรณีเป็นใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล จากอัตราเดิมคือ 605 บาท จะเสียเฉพาะค่าธรรมเนียมและค่าคำขอรวม 505 บาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2560 เป็นต้นไป กรมการขนส่งทางบกจะเริ่มออกใบอนุญาตขับรถ Smart card รูปแบบใหม่ที่มีเทคโนโลยี QR Code ให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถทั้งตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกเพียงรูปแบบเดียว เพื่อประโยชน์ในการควบคุมกำกับดูแลความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างมีประสิทธิภาพและมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ สำหรับประชาชนที่ได้รับใบอนุญาตขับรถรูปแบบกระดาษที่กรมการขนส่งทางบกออกให้ก่อนวันที่ 15 สิงหาคม 2560 รวมถึงใบอนุญาตขับรถ Smart card ที่ออกให้ก่อนวันที่ 4 กันยายน 2560 ยังคงสามารถใช้งานได้ตามกำหนดอายุการใช้งานของใบอนุญาตขับรถ แต่หากชำรุด สูญหาย หรือถึงกำหนดระยะเวลาต่ออายุใบอนุญาตขับรถ เมื่อติดต่อขอทำใหม่จะได้รับใบอนุญาตขับรถ Smart card รูปแบบใหม่เท่านั้น
นอกจากนี้ ใบอนุญาตขับรถ Smartcard รูปแบบใหม่ยังมีความเป็นสากล ปรากฏข้อมูลเจ้าของบัตรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษควบคู่กันสามารถนำไปใช้ขับรถในประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม ลาว พม่า และกัมพูชา โดยไม่ต้องทำใบอนุญาตขับรถสากลตามความตกลงร่วมกัน เพื่อให้การคมนาคมระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เพิ่มความสามารถในการรองรับการพัฒนาระบบการบริหารจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีในอนาคต