BAM เตรียมก้าวสู่ปีที่ 25 ในปี 2567 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา BAM ได้ดำรงบทบาทหลักในการรับซื้อรับโอนและบริหารจัดการแก้ไขสินทรัพย์ด้อยคุณภาพหรือ NPL และทรัพย์สินรอการขายหรือ NPA โดยมีนโยบายในการช่วยเหลือลูกหนี้ที่สุจริตให้สามารถกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจ และฟื้นฟูธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มือสองให้มีมูลค่าเพิ่มและเป็นที่ต้องการของตลาด สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้ข้อยุติมากกว่า 120,000 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท ในปัจจุบัน BAM มี NPL ในความดูแลทั้งสิ้น 84,191 ราย ภาระหนี้ 473,957 ล้านบาท และNPA จำนวน 23,315 รายการ มูลค่าราคาประเมิน 68,714 ล้านบาท
นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดเผยว่า BAM ได้ทำหน้าที่เสมือนแก้มลิงรองรับหนี้เสียในระบบเศรษฐกิจตลอด 24 ปีที่ผ่านมา โดยได้รับซื้อรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ หรือ NPL มาบริหารจัดการ ด้วยการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ได้รับความพึงพอใจสูงสุดของทุกฝ่ายเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริษัทฯ รับซื้อมาส่วนใหญ่มีหลักประกันเป็นอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินเปล่า บ้าน ห้องชุดพักอาศัย โรงแรม โรงงาน อาคารพาณิชย์ รวมทั้งสังหาริมทรัพย์ และหลักทรัพย์อื่น ๆ ซึ่ง BAM จะได้อสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินรอการขายเหล่านี้เข้ามาด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ลูกหนี้โอนหลักประกันชำระหนี้ การซื้อจากการขายทอดตลาด การซื้อจากสถาบันการเงินโดยตรง ปัจจุบัน BAM มีลูกหนี้ในความดูแลทั้งสิ้น 84,191 ราย ภาระหนี้ 473,957 ล้านบาท และNPA จำนวน 23,315 รายการ มูลค่าราคาประเมิน 68,714 ล้านบาท ในครึ่งแรกของปี 2566 BAM ได้เข้าประมูลซื้อ NPL เข้ามาบริหารคิดเป็นภาระหนี้ทั้งสิ้น 17,363 ล้านบาท
นายบัณฑิต กล่าวว่า “ในขั้นตอนการบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย มีปัญหาอุปสรรคพอสมควรเนื่องจากเป็นทรัพย์มือสองที่ BAM ได้รับมาตามสภาพ ดังนั้น BAM จึงตั้งสายงานโดยตรงและฝ่ายงานเฉพาะที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการและปรับปรุงพัฒนาทรัพย์สินรอการขายเหล่านี้ ซึ่งหนึ่งในภารกิจของฝ่ายดังกล่าวคือการจัดการกับผู้ใช้ประโยชน์ในทรัพย์ และเมื่อเร็ว ๆ นี้มีกรณีที่ผู้สูงอายุรายหนึ่งใช้ประโยชน์อยู่อาศัยในทรัพย์ของ BAM ตามลำพังโดยไม่มีญาติพี่น้อง และไม่มีที่ไป กลุ่มงานจัดการกับผู้ใช้ประโยชน์ในทรัพย์ของ BAM ซึ่งมีหน้าที่ในการฟ้องขับไล่ผู้บุกรุก ได้เข้าเจรจาให้
ผู้สูงอายุรายดังกล่าวย้ายออกจากทรัพย์ โดยหาวิธีช่วยเหลือให้มีผู้ดูแลและมีที่พักอาศัย อีกทั้งยังพาไปตรวจสุขภาพ และประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือ จนในที่สุดบ้านพักคนชราได้ตอบรับให้การดูแลผู้สูงอายุรายนี้ให้มีที่อยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิต โดยที่ BAM ไม่ต้องไปฟ้องขับไล่ นั่นคือภารกิจที่ทำให้ BAM ภาคภูมิใจอย่างมาก”
BAM ยึดมั่นและตระหนักถึงการทำงานตามเป้าหมายการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล และหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งยังกำหนดนโยบายให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตลอดจนคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ซึ่งถือเป็นค่านิยมองค์กรที่ BAM ใช้เป็นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจตลอดไป