ตามที่ได้มีสื่อสังคมออนไลน์โพสต์ข้อความโจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า มีการใช้ไสยศาสตร์กับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนของหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข (ทหารชุดหมวกแดง) เข้าไปเยี่ยมและทำกิจกรรมกับนักเรียนในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา หลังจากกลับออกมานักเรียนจะมีอาการเหมือนโดนไสยศาสตร์ บางคนเป็นลม บางคนมีอาการหมดสติ ทำให้คณะครูของโรงเรียนต้องพานักเรียนไปรักษาที่บ้านโต๊ะครู (ผู้นำศาสนาอิสลามในหมู่บ้าน) จึงจะหาย
ภายหลังทราบเหตุ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยผลจากการตรวจสอบอย่างละเอียด ได้รับการยืนยันจากผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในแต่ละแห่ง ว่าไม่ปรากฎเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่สื่อสังคมออนไลน์พยายามกล่าวอ้างแต่อย่างใด และเมื่อตรวจสอบกลับไปยังสื่อสังคมออนไลน์ที่นำเสนอข้อมูล พบว่าเป็นสื่อฯ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้ได้ รวมทั้งที่ผ่านมาพยายามนำเสนอข้อความโจมตี กล่าวหาบิดเบือนการทำงานของเจ้าหน้าที่มาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ในการเข้าไปดำเนินกิจกรรมในสถานศึกษาต่าง ๆ นั้น มีวัตถุประสงค์ในการสร้างความเข้าใจ การอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ตลอดจนการส่งเสริมการศึกษาควบคู่กับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการสำนึกรักบ้านเกิด รวมถึงการให้ความรู้ในเรื่อง ความรักชาติ การยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้ โดยทุกกิจกรรมที่เข้าดำเนินการ มีการขออนุญาตจากผู้บริหารของสถานศึกษาทุกครั้ง โดยการปฏิบัติงานดังกล่าวของเจ้าหน้าที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระบวนการบ่มเพาะเยาวชนของกลุ่มผู้เห็นต่าง ซึ่งมุ่งพยายามขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ปิดกันการรับรู้ ตลอดจนพยายามแบ่งแยก เจ้าหน้าที่รัฐ ออกจากประชาชน โดยสร้างวาทะกรรมแอบอ้างบิดเบือน ตามข่าวสารที่ปรากฏ พยายามนำเสนอข้อความอันเป็นเท็จเพื่อให้ส่งผลต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนในการต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข่าวสาร โดยเฉพาะทางสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสามารถเข้าถึงและบิดเบือนได้ง่าย รวมทั้งหากพบเห็นบุคคลหรือการกระทำซึ่งอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หรือหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061 -1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง