ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา แถลงแถลงผลงาน “365 วัน Better to Pattaya เพื่อสร้างความยั่งยืน” ตามนโยบาย 4 เป้าหมาย 15 นโยบาย เนื่องในวาระครบรอบ 1 ปีการทำงาน ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2565 ระบุว่า การบริหารเมืองพัทยานั้นมีประชาชนกรที่หลากหลายเชื่อชาติเข้ามาอยู่ในเมืองพัทยา 3-4 เท่าตัว ไม่เพียงประชาชนกรชาวพัทยาที่มีอยู่ 120,000 คน ทำให้การบริหารเมืองพัทยาต้องตอบโจย์ ในหลาย ๆด้าน เพื่อนำรายได้จากภาษีมาบริหารประเทศซึ่งไม่เพียงเพราะบริหารเมืองพัทยาอย่างเดียว ทำให้ปัญหาต่าง ๆในเมืองพัทยาจึงมีหลายมิติ จึงอยากได้รับความร่วมมือจากประชาชนชาวพัทยาทุกคนและทุกหน่วยงานในการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ด้วยอำนาจการบริหารเมืองพัทยานั้นมีจำกัด ทั้งนี้ข้อจำกัดที่มีไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำให้เมืองพัทยาไม่สามารถทำงานได้ และได้มีการขับเคลื่อนโยบาย 4 เป้าหมายมาโดยตลอด
ซึ่งเป้าหมายหลักที่ก่อนจะเข้ามาบริหารเมืองพัทยานั้นคือเรื่องของเศรษฐกิจ หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งสิ่งแรกที่เข้ามาจึงต้องเร่งแก้ไจปัญหาเศรษฐกิจ โดยได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวรวมทั้งเปิดเมืองให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาให้มากขึ้น ทั้งนี้สิ่งที่ได้ทำขึ้นมานั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์ตรงใจกับทุกคน อาจจะมีการส่งผลกระทบบ้างในบ้างครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมให้เมืองพัทยากลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่วนปัญหาขุดเจาะนั้นเมืองพัทยาเป็นเมืองที่ขยายอย่างรวดเร็วทำให้มีความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ปัจจุบันได้มีการแก้ไขปัญหาในระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่เรียบร้อยทั้งหมดเนื่องจากโครงการใหญ่ ๆยังไม่เสร็จ 100 % แต่ทางทีมฝ่ายบริหารก็มีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองพัทยาให้ดีขึ้นกว่าเดิม สำหรับปัญหาขุดเจาะก็ได้มีการหารือกับทีมฝ่ายบริหารว่านับจากนี้การขุดเจาะแบบทั่วทั้งเมืองจะไม่เกิดขึ้นจะเป้นการดพเนินการโครงการให้เป็นถนน ๆ ไป จะไม่มีภาพลักษณ์ของการขุดเจาะผิวจราจรทั่วทั้งเมืองอย่างที่ผ่านมา จากปัญหาที่เมืองพัทยาประสบเนื่องจากผู้รับเหมาได้รับการผ่อนปรนจากรัฐบาลในการเยี่ยวยาโควิด-19 ทำให้ไม่ต้องเสียค่าปรับในการดำเนินการก่อสร้างที่มีความล่าช้า จนทำให้บ้างดครงการก่อสร้างได้รับการขยายเวลาเป็นเท่าตัวTOR
นายปรเมศวร์ ยังบอกอีกว่า การได้เข้ามาทำงาน 1 ปี ในบานะนายกเมืองพัทยาเป็นการทำงานที่มีการแก้ไขปัญหาทุกมิติ แม้ก่อนจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยานั้นผ่านงานการเป็น สจ .ส.ส.และผู้ช่วยรัฐมนตรีมาแล้ว ได้มีการบอกกับคนเชิงตลกว่าไม่เคยมีงานไหนหนักเท่านายกเมืองพัทยาเลย ด้วยความต้องการของคนในพัทยามีความหลากหลายด้วยประชากรมาจากหลายหลายภูมิภาค และหลายประเทศทั่วโลก เมื่อทำอะไรลงไปอย่างหนึ่งก็อาจจะกระทบกลับคนอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งการบริหารงานเมืองพัทยานั้นทุกอย่างที่ดำเนินการฝ่ายบริหารจะยึดระเบียบ และยึดข้อกฎหมายเป็นหลัก ตลอด 1 ปีที่ผ่านมายอมรับว่าเหนื่อยกับงานที่หนัก แต่ก็สนุกยินดีรับปัญหาทุกปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อได้มีความตั้งใจขานอาสาเข้ามาทำงานรับใช้ชาวพัทยาแล้วก็จะทำงานให้ดีที่สุด
สำหรับปัญหาขุดเจาะที่ยังเป็นปัญหาที่ชาวพัทยาต้องประสบนั้นและมีข้อสงสัยว่าทำไมต้องมีการขุดเจาะถนนทั้งปีสิ่งนี้ด้วยเมืองพัทยาเป็นเมืองที่ต้องมีการพัฒนาอีกทั้งยังมีโครงการต่าง ๆเป็นโครงการที่มาทำต่อจากผู้บริหารชุดที่ผ่านมา ทั้งการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม การนำสายไฟลงดิน 9 เส้นทาง เมื่อโครงการต่าง ๆ เริ่มดำเนินการพร้อม ๆกันและยังประสบปัญหาโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้สัญญาจ้างไม่สามารถบังคับได้ทำให้โครงการต่าง ๆ มีการก่อสร้างยาวนาน ส่งผลกระทบต่อความเป้นอยุ่ของประชาชนเป็นอย่างมากนั้น ที่ผ่านมาผู้บริหารได้มีการลงพื้นที่ในการเร่งการก่อสร้างเพื่อให้ผู้รับจ้างคืนผิวจราจรให้กับชาชน โดยโครงการต่าง ๆที่มีการก่อสร้างมาเป็นเวลาหลายปี ทั้งถนนเทพประสิทธิ ถนนเลียบทางรถไฟ และถนนพัทยาสาย 2 นั้น ขณะนี้เมืองพัทยาด่างการให้ผู้รับจ้างดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณนี้ ส่วนในอนาคตจะมีการขุดเจาะอีกหรือไม่นั้นจะไม่การันตรีว่าจะไม่มีการขุดอีกแต่จะเป้นการดำเนินการก่อสร้างเป็นโครงการ ๆไป จะมีการเปิดผิวถนนทั่วทั้งเมืองเหมือนที่ผ่านมา นอกจากโครงการของเมืองพัทยาแล้วยังมีโครงการของไฟฟ้าและประปา ที่มีการขุดเจาะผิวถนน จากนี้จะมีการประสานงานส่วนต่าง ๆ ก่อนจะมีการดำเนินการขุดเจาะเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบก่อนดำเนินการ เพื่อลดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวต่อไป
ส่วนแผนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเมืองพัทยานั้นมีการดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อผันน้ำจากพื้นที่ฝั่งหนองปรือ ระบายลงคลอง แก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเมืองพัทยา โดยปัจจุบันโครงการที่จะรองรับได้ 12,000 คิว ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จถึงเส้นทางที่จะผันน้ำลงสู่คลองนาเกลือ ด้วยติดปัญหาตอม่อโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ทำให้การดำเนินการยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เมื่อเกิดฝนตกหนักลงมาพัทยาน้ำยังท่วมอยู่แต่ก็จะระบายเร็วขึ้น และในขณะนี้การดำเนินโครงการในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เมืองพัทยาได้ดำเนินการแล้วเสร็จจะเป็นโครงการที่แยกมุมอร่อยสาย 3 และโครงการที่วัดหนองใหญ่ ในการระบายน้ำลงคอลงนาเกลือ รวมถึงภายในสิ้นเดือนนี้โครงการที่ถนนพัทยาสาย 2 ที่จะรับน้ำจากซอยบัวขาวระบายลงทะเล ลดน้ำท่วมพื้นที่ย่านพัทยาใต้ วัดชัยมงคลและซอยบัวขาวต่อไป ทั้งนี้ในส่วนของการยกระดับเกาะล้านสู่เป้าหมาย EEC ยอมรับว่าปัจจุบันเกาะบ้านถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อน พบมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวกว่า 10,000 คน ในช่วงวันหยุดต่าง ๆ ทำให้การรองรับนักท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆไม่เพียงพอ เมื่อได้เข้ามาบริหารงานก็ได้มีการแก้ไขปัญหาทั้งที่จอดรถให้กับนักท่องเที่ยวที่ลานสีฟ้า มีการสานงานต่อนายกเมืองพัทยาคนเก่าที่ได้มีการทำถนนเสื่อมแหล่งท่องเที่ยวในเกาะลานถึง 15 สาย การแก้ไขปัญหาขยะตกค้าง จากเดิมที่ใช้วิธีฝั่งกลบอยู่ก็มีการเดินหน้าโครงการเตาเผาขยะจำนวน 2 เตา เตาละ 25 ตัน แต่ด้วยขั้นตอนทางกฎหมายผ่านมาปีกว่าที่มีการส่งสัญญาเข้าสู้สำนักงานอัยการตีความ ขนธนี้สัญญานั้นผ่านความเห็นชอบจากสำนักอัยการแล้ว จากนี้ไปพื้นที่เกาะล้านจะมีเตาเผาขยะ 25 ตัน 2 เตาในการแก้ไขปัญหาขยะตกค้างบนเกาะล้าน ส่วนเรืองบำบัดน้ำเสียบนเกาะล้านขณะนี้ได้มีการศึกษาพื้นที่ในการดำเนินการโรงบำบัดน้ำเสียที่เกาะล้าน ส่วนเรื่องของน้ำประปาที่ขาดแคลนบนเกาะล้านนั้นซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่บนเกาะล้าน ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้มีแนวคิดที่จะวางท่อประปาจากบนฝั่งไปเกาะล้านแต่โครงการต้องพับไป เนื่องจกาน้ำประปาบนฝั่งยังมีไม่เพียงพอต่อการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยว เมื่องพัทยาจึงได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำประปาบนเกาะล้านที่ขาดแคลนกับบริษัทอีสวอเตอร์ การนำน้ำทะเลมาผลิตเป้นน้ำจืด และในปัจจุบันสามารถผลิตน้ำจืดได้ถึง 100 ตัน หรือ 300 คิวต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทั้งนี้ในอนาคตได้มีการหารือกับฝ่ายบริหารว่าจะต้องดำเนินการโครงการศึกษาในการที่จะทำท่อประปาลงในทะเลเพื่อส่งน้ำประปาจากฝั่งไปเกาะล้านในอนาคต
นายปรเมศวร์ ได้กล่าวเปิดท้ายในการแถลงผลงาน จากนี้เวลาที่เหลือในการบริหารงานเมืองพัทยาอีก 3ปีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยในปี 2567 ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันทีคือการก้าวเข้าสู่การเป็นเมือง Smart City ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรการในการดำเนินการดังกล่าวแล้ว ซึ่ง Smart City ที่เมืองพัทยาจะทำนั้นจะเป็นในเรื่องของสมาร์ทเอ็นน์ไวรอนเม้นท์ หรือการเป็นสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ โดยเมืองพัทยาได้มีการดำเนินมาแล้วทั้งโครงการสะอาดก่อนสว่าง รวมถึงการติดตั้งเตาเผาขยะที่เกาะล้าน ทั้งนี้หากเมืองพัทยาจะเป็น Smart Cityนั้นมีข้อดีคือการที่จะทำให้เมืองพัทยาสามารถใช้เทคโนโลยีและส่งผลให้ความเป็นอยู่ของชาวพัทยาในทุก ๆแบบดีขึ้น และยังสามารถดำเนินการควบคู่ไปกับนโยบายที่มีอยู่ได้ และนับจากนี้เมืองพัทยาจะก้าวเข้าสู่เมือง Smart City อีกเมืองหนึ่งในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป เพื่อให้เมืองพัทยาเป็นเมืองที่หน้าอยุ่ น่าลงทุนของคนทั้งโลก นโยบาย 4 เป้าหมาย 15 นโยบาย พร้อมทั้งขอขอบคุณชาวพัทยา ข้าราชการทุกคน สมาชิกสภาเมืองพัทยาที่ร่วมกันผลักดันนโยบายตอลด 1 ปีที่ผ่าน เพื่อประชาชน ซึ่งลำพังนายกเมืองพัทยาเพียงคนเดียวการทำงานจะไม่ประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นข้าราชการจึงมีส่วนสำคัญการขับเคลื่อนนโยบายจนเกิดเห็นผลเป็นรูปธรรม และอีก 3ปีที่เหลือก้จะทำงานบริหารเมืองพัทยาให้หนักขึ้นและให้ดีขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว อีกทั้งเพื่อสร้างเมืองพัทยาให้เป็นเมืองที่ดีขึ้นในทุก ๆวัน ต่อไป