นพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566 อุบลฯ แห่ต้นเทียนพรรษาท่ามกลางฝนโปรยปรายชุ่มเย็น
เปิดงานแห่ต้นเทียนพรรษาประจำปี 2566 ด้วยขบวนฟ้อนรำของนางรำประจำต้นเทียนทั้ง 53 ต้น และธิดาประจำงานเทียนพรรษาปีนี้ สำหรับต้นเทียนพรรษาที่นำมาแห่ไปรอบเมืองแบ่งเป็นต้นเทียนประเภทต้นเทียนแกะสลัก และต้นเทียนประเภทติดพิมพ์ขนาดใหญ่ ยังมีต้นเทียนแบบโบราณ และต้นเทียนขนาดกลาง โดยจะมีการเคลื่อนขบวนสลับกันไปมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามวิจิตรตระการตาของฝีมือช่างทำต้นเทียนพรรษาในแต่ละประเภทของจังหวัดอุบลราชธานี
ที่หน้าประรำพิธีลานขวัญเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานแห่ต้นเทียนพรรษาประจำปี 2566 โดยขบวนแรกเป็นการอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน และผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน ตามด้วยขบวนฟ้อนรำของนางรำประจำต้นเทียนทั้ง 53 ต้น และธิดาประจำงานเทียนพรรษาปีนี้ สำหรับต้นเทียนพรรษาที่นำมาแห่ไปรอบเมืองแบ่งเป็นต้นเทียนประเภทต้นเทียนแกะสลัก และต้นเทียนประเภทติดพิมพ์ขนาดใหญ่ ยังมีต้นเทียนแบบโบราณ และต้นเทียนขนาดกลาง โดยจะมีการเคลื่อนขบวนสลับกันไปมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามวิจิตรตระการตาของฝีมือช่างทำต้นเทียนพรรษาในแต่ละประเภทของจังหวัดอุบลราชธานี ในปีนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้นำรถพนมพระ มาเป็นฑูตวัฒนธรรมเข้าร่วมโชว์ความสวยงามของประเพณีชักพระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีความเจริญในพุทธศาสนา วัฒนธรรม และประเพณีมาเป็นเวลายาวนาน ถือเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี ในขณะที่งานประเพณีชักพระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ถือเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ ซึ่งได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษผ่านกาลเวลามาช้านานเช่นเดียวกันสำหรับการลงทุนทำต้นเทียนพรรษาปีนี้ ต้นเทียนขนาดใหญ่แต่ละต้นใช้เทียนมากว่า 10 ตัน ด้วยงบลงทุนต้นละกว่า 1 ล้านบาท และหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี คาดว่าจะมีเงินที่นักท่องเที่ยวนำมาใช้จ่ายท่องเที่ยวงานแห่เทียนพรรษาไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท และตลอดการแห่ต้นเทียนไปรอบเมือง มีฝนตกโปรยปรายลงมาเล็กน้อย ทำให้มีอากาศเย็นสบาย
สุธน ประกอบพร/อุบลราชธานี